มุมสุขภาพตา : #โรคต้อหิน

เรียงตาม

เทคนิคการเลือกแว่นตาหลังทำเลสิก

เทคนิคการเลือกแว่นตาหลังทำเลสิก หลังจากที่ทำเลสิกแล้วเพื่อให้แผลหายเร็วและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สิ่งที่สำคัญไม่แพ้การรักษาความสะอาดคือการหลีกเลี่ยงแสงแดด การใส่แว่นกันแดดเป็นสิ่งหนึ่งที่คุณสามารถทำเพื่อดูแลดวงตาของคุณหลังการผ่าตัดได้ โดยมีเทคนิคการเลือกแว่นกันแดดดังนี้   🌞 เลือกเลนส์ที่สามารถป้องกันแสง UV ได้ 99-100% แสงอัลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์สามารถทำอันตรายต่อดวงตาได้ แม้ว่าจะทำเลสิกแล้วก็ตาม การใส่แว่นกันแดดที่มีเลนส์ป้องกัน UV จึงเป็นสิ่งสำคัญ 🌞 ถ้าอยู่ในที่ ๆ มีแสงสะท้อนเยอะ ควรเลือกเลนส์โพลาไรซ์ซึ่งช่วยตัดแสงสะท้อนจะทำให้สบายตามากขึ้น 🌞 เลือกสีให้เหมาะกับการใช้งาน โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสีดำมืดก็ได้ 🌞 เลือกขนาดที่เหมาะกับใบหน้า เลนส์ควรมีความกว้างเท่ากับใบหน้าของคุณ สันจมูกควรสวมได้พอดีโดยไม่รัดแน่นเกินไป และขาแว่นควรสวมได้พอดีโดยไม่กดทับใบหน้า   สามารถมาเลือกแว่นตากันแดดแบรนด์ชั้นนำได้ที่ร้าน WALTZ ในโรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ Bangkok Eye Hospital ชั้น 3 เปิดให้บริการ ตั้งแต่เวลา 10.00 -19.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.02-511-2111
อ่านเพิ่มเติม
ศูนย์เลสิก LASER VISION

โรคต้อหินเฉียบพลัน

โรคต้อหินเฉียบพลัน ชื่อโรคก็บ่งบอกให้เรารู้อยู่แล้วว่าเฉียบพลัน "ต้อหินเฉียบพลัน" จะทำให้ผู้ป่วยตาแดง ตามัว ปวดตา และตาบอดในเวลาอันสั้น ทุกอย่างเป็นไปอย่างเฉียบพลัน      ภายในดวงตาคนเรามีน้ำทั้งชนิดใสและข้นเป็นองค์ประกอบ ทำให้ลูกตาเกิดแรงดันอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งถ้าใช้เครื่องมือไปวัดจะได้ประมาณ 10-20 มิลลิเมตรปรอท น้ำในลูกตามีการไหลเวียนแลกเปลี่ยนกับกระแสเลือด มีน้ำเข้าในและออกนอกลูกตาเป็นประจำ น้ำเข้าและออกจะสมดุลกัน สำหรับผู้ที่เป็นโรคต้อหินเฉียบพลัน เกิดจากการไหลเวียนของน้ำเข้าและออกผิดพลาด น้ำออกจากตาน้อยกว่าน้ำเข้าตา ทำให้ความดันตาขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว อาจวัดความดันตาได้สูงถึง 50-60 มิลลิเมตรปรอท ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดตา ปวดศรีษะอย่างรุนแรงในทันที แรงดันที่สูงขนาดนี้ ทำให้ กระจกตา ที่ปกติใส จะขุ่นมัวทันที ทำให้ผู้ป่วยตามัวลงอย่างทันทีด้วย      โรคต้อหินเฉียบพลันนี้เกิดขึ้นได้เฉพาะในคนที่มีรูปร่าง ลักษณะภายในของตาผิดปกติ มองข้างนอกจะเป็นลูกตาปกติ ร่วมกับภาวะแวดล้อมที่ทำให้ ม่านตา ขยายผิดปกติ เช่น จากการใช้ยาบางชนิด พบโรคนี้มากในผู้หญิงสูงอายุ เนื่องด้วยผู้หญิงมักมีขนาดดวงตาเล็กกว่าผู้ชาย เมื่ออายุมากขึ้นขนาดแก้วตาซึ่งอยู่ภายในดวงตาใหญ่ขึ้น (เพราะเนื้อเยื่อบางส่วนของตาเสื่อมลงตามวัย) จึงทำให้ช่องต่างๆ ภายในดวงตาแคบลง   อาการ      ในผู้ป่วยบางราย อาจมีอาการเตือนนำมาก่อนการเกิดต้อหินเฉียบพลัน ได้แก่ รู้สึกปวดตาเวลาใช้สายตามากๆ ทำให้ตาพร่าไปชั่วคราว ตามักพร่ามัวเวลาพลบค่ำ หรือบางครั้งอาจมองเห็นสีรุ้งรอบดวงไฟ แต่พอนอนพักอาการจะดีขึ้น แต่จะมีอาการแบบนี้บ่อยๆ ดังนั้นผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้หญิง หากมีอาการดังกล่าวควรรีบเข้าปรึกษาจักษุแพทย์ทันที หากจักษุแพทย์ตรวจพบอาการดังกล่าวร่วมกับความผิดปกติของลักษณะภายในตาที่แคบ หรือตื้น สามารถทำการป้องกันได้โดยการใช้แสงเลเซอร์รักษา ซึ่งสามารถป้องกันโรคนี้ได้อย่างถาวร   ผู้มีปัจจัยเสี่ยงที่เกิดโรคต้อหินเฉียบพลัน ถึงแม้ไม่อาจทราบสาเหตุที่แน่ชัด ที่ทำให้ความดันตาสูงขึ้นอย่างกะทันหัน แต่พอสรุปได้ว่ากลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงที่เกิดโรคต้อหินเฉียบพลันได้แก่ ผู้ป่วยบางเชื้อชาติ เช่น ชาวเอเชีย พบมากกว่าชาวยุโรป ผู้ป่วยหญิงเป็นมากกว่าผู้ชาย อายุที่มากขึ้นมีโอกาสเป็นมากขึ้น มักพบในอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป มี บิดา มารดา และ/หรือ ญาติพี่น้อง เป็นโรคนี้ กล่าวคือ เป็นโรคทางพันธุกรรม ส่วนใหญ่โรคนี้จะเป็นอย่างฉับพลัน โดยไม่มีโรคตาอื่นๆนำมาก่อน มีบ้างที่เกิดจากมีโรคตาบางอย่าง เช่น เป็น ต้อกระจก ที่ต้อแก่แล้วไม่ไปรับการผ่าตัด หรือ ได้รับอุบัติเหตุจนแก้วตาเคลื่อนไปจากเดิม      ดังได้กล่าวแล้วว่า อาการสำคัญของต้อหินเฉียบพลันมี 3 อย่าง ได้แก่ ตาแดง ตามัว และ ปวดตา อาการเหล่านี้ ถือเป็นภาวะฉุกเฉิน ต้องรีบพบจักษุแพทย์ทันที ซึ่งหากแพทย์วินิจฉัยได้เร็ว ให้ยาลดความดันตา ตามด้วยการยิงแสงเลเซอร์อาการทั้ง 3 อย่าง ข้างต้นจะหายได้ ผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้ โดยไม่ต้องนอนพักในโรงพยาบาลแต่อย่างใด ดังนั้นผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงควรเข้าควรเข้ารับการตรวจสุขภาพตา อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
ศูนย์เลสิก LASER VISION

อาการเริ่มต้นและสัญญาณเตือนของต้อหิน พร้อมการรักษาและป้องกัน

ต้อหินเป็นโรคที่เกิดจากความเสียหายต่อเส้นประสาทตา ซึ่งมักเกิดจากความดันในลูกตาที่สูงเกินไป ทำให้การมองเห็นค่อยๆ เสื่อมลงหากปล่อยไว้ไม่รักษา อาการของต้อหินที่มักพบ เช่น ปวดตา น้ำตาไหล การมองเห็นลดลง และเห็นวงแสงรอบดวงไฟ การรักษาต้อหินมีหลายวิธี ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรง ได้แก่ ยาหยอดตา ยาทาน เลเซอร์ และการผ่าตัด การรักษาต้อหินที่โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ ดีเพราะมีจักษุแพทย์และเทคโนโลยีทันสมัยในการดูแลและรักษาโรคต้อหินอย่างครบวงจร   ต้อหินเป็นโรคที่เกิดจากความดันในลูกตาสูงเกินไป อาจทำลายเส้นประสาทตาและนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นหากไม่ได้รับการรักษาทันเวลา อาการเริ่มต้นของต้อหินมักไม่ชัดเจน ทำให้การตรวจพบในระยะแรกยาก ในบทความนี้จะพูดถึงอาการเริ่มต้น วิธีการรักษา และวิธีการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคนี้     ต้อหินคือโรคอะไร โรคต้อหิน เป็นโรคที่พบได้บ่อยในดวงตา แต่มีอันตรายสูง เนื่องจากอาจทำให้สูญเสียการมองเห็นถาวรหากไม่ได้รับการรักษาหรือดูแลอย่างสม่ำเสมอ โรคนี้ทำให้การมองเห็นแย่ลง ความกว้างของการมองเห็นแคบลง จนสุดท้ายอาจสูญเสียการมองเห็นทั้งหมดได้ การสูญเสียการมองเห็นจากต้อหินเป็นสิ่งถาวรและไม่สามารถฟื้นคืนกลับมาได้ ซึ่งต้อหินสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่ 1. ต้อหินมุมเปิด ต้อหินปฐมภูมิชนิดนี้เป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดและแบ่งออกเป็นสองประเภทตามความดันลูกตา ได้แก่ ความดันลูกตาสูงและความดันลูกตาปกติ กลไกการเกิดโรคยังไม่ชัดเจน การดำเนินโรคมักเป็นไปอย่างช้าๆ ทำให้ผู้ป่วยมักไม่สังเกตเห็นความผิดปกติในระยะแรก   ส่วนใหญ่จะทราบจากการตรวจของจักษุแพทย์ เมื่อโรคดำเนินไป ผู้ป่วยอาจเริ่มสังเกตเห็นอาการตามัว มองเห็นได้แคบลง หรือความสามารถในการปรับการมองเห็นในที่สว่างและมืดลดลง 2. ต้อหินมุมปิด ต้อหินปฐมภูมิชนิดนี้พบได้บ่อยในคนเอเชียคือต้อหินมุมปิด ซึ่งเกิดจากการอุดกั้นการระบายน้ำในลูกตาที่มุมตา ทำให้ความดันลูกตาสูง แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่   ชนิดเฉียบพลันผู้ป่วยมักมีอาการปวดตา ตาแดง ตามัว เห็นรัศมีรอบดวงไฟ และอาจปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียนได้ จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีเพื่อป้องกันการทำลายขั้วประสาทตา ชนิดเรื้อรังพบได้บ่อยกว่าชนิดเฉียบพลัน ผู้ป่วยอาจไม่มีอาการชัดเจน หรือมีอาการปวดตาหรือปวดศีรษะเล็กน้อย เป็นๆ หายๆ เป็นระยะเวลาหลายเดือนหรือหลายปี 3. ต้อหินจากการผิดปกติของดวงตา ต้อหินทุติยภูมิเกิดจากความผิดปกติอื่นๆ ของดวงตา เช่น เบาหวานขึ้นตา ต้อกระจกที่สุกมาก การอักเสบภายในดวงตา เนื้องอกหรือมะเร็งในลูกตา อุบัติเหตุต่อดวงตา ภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดตา และการใช้ยาบางชนิดเป็นเวลานาน เช่น ยาสเตียรอยด์ 4. ต้อหินตั้งแต่เกิดและในเด็กเล็ก ต้อหินตั้งแต่กำเนิดและในเด็กเล็ก เกิดจากความผิดปกติของดวงตาตั้งแต่ในครรภ์ ทำให้ระบบระบายน้ำในลูกตาทำงานผิดปกติ อาจเกิดเฉพาะกับดวงตาหรือมีความผิดปกติทางร่างกายร่วมด้วย อาการที่มักพบ ได้แก่ กลัวแสง เปลือกตากระตุก น้ำตาไหลเอ่อ หรือแม่อาจสังเกตเห็นลูกมีลูกตาดำใหญ่ผิดปกติหรือตาดำขุ่น     อาการตามระยะของต้อหิน อาการของต้อหินและโรคต้อหินเฉียบพลันที่พบได้บ่อย มีลักษณะแตกต่างกันไปตามชนิดของโรค โดยสามารถสังเกตได้จากอาการต่อไปนี้   อาการปวดตา ตาแดง น้ำตาไหลผิดปกติ การมองเห็นมัวลง เห็นแสงรุ้งรอบดวงไฟ การมองเห็นไม่ชัดเจน แม้จะตัดแว่นใหม่แล้วก็ตาม     ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคต้อหิน ความดันลูกตาสูงถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นปัจจัยเดียวที่สามารถควบคุมได้ หากความดันลูกตาสูงมาก ความเสี่ยงต่อการเกิดต้อหินจะเพิ่มขึ้น และยังส่งผลให้โรคดำเนินไปอย่างรวดเร็วขึ้นอีกด้วย อายุอายุที่เพิ่มขึ้นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดต้อหิน โดยเฉพาะต้อหินปฐมภูมิมุมเปิดที่พบได้บ่อยในผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี พันธุกรรมการมีประวัติคนในครอบครัวเป็นต้อหิน จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดต้อหินได้ถึง 4-5 เท่า โรคประจำตัวโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคอื่นที่ส่งผลต่อการไหลเวียนเลือด อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดต้อหินได้ รวมถึงโรคข้อรูมาตอยด์ที่มีการอักเสบเรื้อรังที่ดวงตา ยาบางชนิดเช่น ยาแก้โรคกระเพาะ ยากันชัก ยารักษาโรคซึมเศร้า เป็นต้น อุบัติเหตุที่ลูกตาหรือมีภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดตา โรคตาเช่น เบาหวานขึ้นตา การอักเสบภายในลูกตา โรคเม็ดสีผิดปกติในดวงตา หรือภาวะต้อกระจกบางชนิด สายตาสั้นมากหรือสายตายาวมากคนที่มีสายตาสั้นมากจะมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดต้อหินมุมเปิด ส่วนคนที่มีสายตายาวมากจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการเกิดต้อหินมุมปิด การวินิจฉัยเพื่อตรวจหาต้อหิน โรคต้อหินไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า การตรวจวินิจฉัยจึงมีความสำคัญมาก โดยสามารถตรวจวินิจฉัยโรคต้อหินอย่างละเอียดตามคำแนะนำของจักษุแพทย์ ผ่านการตรวจระดับการมองเห็น การวัดค่าสายตาหักเหด้วยคอมพิวเตอร์ การตรวจตาทั่วไป การตรวจขั้วประสาทตา การตรวจมุมตา วัดความดันลูกตา ความหนาของกระจกตา การตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น การถ่ายภาพขั้วประสาทตา การใช้เครื่องสแกนวิเคราะห์จอประสาทตาและขั้วประสาทตา (Optical Coherence Tomography) และเครื่องตรวจลานสายตา (Visual Field Analyzer) ที่ช่วยให้ทราบผลตรวจได้ทันที     วิธีการรักษาโรคต้อหิน การรักษาต้อหินมีหลายวิธีที่ช่วยลดความดันลูกตาและป้องกันการสูญเสียการมองเห็นได้ ซึ่งการเลือกวิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับชนิดของต้อหินที่เป็นและความรุนแรงของโรค โดยมีดังนี้ ใช้ยารักษาต้อหิน การใช้ยารักษาต้อหินอาจรวมถึงการใช้ยาหยอดตาต้อหิน ยารับประทาน และยาฉีด โดยจักษุแพทย์จะทำการรักษาทีละขั้นตอนและติดตามผลการตอบสนองต่อการรักษาอย่างใกล้ชิด การรักษาด้วยเลเซอร์ การรักษาต้อหินด้วยเลเซอร์ขึ้นอยู่กับชนิดของต้อหิน โดยใช้เวลารักษาไม่นาน มักจะมีการให้ยาควบคู่กันด้วย ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการรักษาด้วยเลเซอร์ต้อหินอาจรวมถึงตาแห้ง การไม่ทนแสง ระคายเคืองดวงตา และปวดตา อย่างไรก็ตามหลังการรักษาด้วยเลเซอร์ ผู้ป่วยมักพักฟื้นเพียง 30 นาทีและสามารถกลับบ้านได้ทันทีหลังรักษา การผ่าตัดรักษาต้อหิน เมื่อการรักษาด้วยยาและเลเซอร์ไม่ได้ผล การผ่าตัดจะเป็นทางเลือกสุดท้าย โดยขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของต้อหิน สิ่งสำคัญที่ควรเข้าใจคือการผ่าตัดรักษาต้อหินมีจุดประสงค์เพื่อลดความดันในลูกตา ไม่ใช่การกำจัดต้ออย่างถาวร เนื่องจากเมื่อเป็นต้อหินแล้ว สามารถควบคุมอาการไม่ให้แย่ลงได้เท่านั้น     ป้องกันไม่ให้เกิดต้อหิน ได้อย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดต้อหิน การดูแลดวงตาและสุขภาพตาอย่างเหมาะสม ช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันการเกิดโรคนี้ได้ โดยทำตามวิธีง่ายๆ เช่น   ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป เพื่อป้องกันและรักษาสุขภาพดวงตาให้ดี ระวังเรื่องความสะอาด โดยการล้างมือบ่อยๆ เช็ดหน้าให้สะอาด และล้างเครื่องสำอางให้หมดจด อย่าเอามือไปขยี้ตา เพื่อป้องกันการอักเสบ ติดเชื้อ หรือระคายเคือง ระมัดระวังป้องกันการบาดเจ็บในดวงตา เช่น การใส่แว่นป้องกันการกระแทกในกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ หลีกเลี่ยงการใช้ยาสเตียรอยด์หรือซื้อยาหยอดตามาหยอดเอง การใช้ยาควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์เท่านั้น ควบคุมโรคประจำตัว เช่น เบาหวานและความดันโลหิตสูง เพื่อป้องกันการเกิดต้อหินจากภาวะแทรกซ้อนที่ทำให้เส้นเลือดในตาผิดปกติ สรุป ต้อหินคือโรคที่เกิดจากความดันในลูกตาสูง ซึ่งสามารถทำลายเส้นประสาทตาและส่งผลต่อการมองเห็น มีหลายประเภทคือต้อหินปฐมภูมิแบบมุมเปิดและมุมปิด ต้อหินทุติยภูมิ และต้อหินตั้งแต่เกิด วิธีรักษาต้อหิน ได้แก่ ยาหยอดตา ยาเม็ด ยาฉีด การรักษาด้วยเลเซอร์ และการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของอาการ สามารถป้องกันต้อหินได้ด้วยการดูแลดวงตา เช่น ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ หลีกเลี่ยงการใช้ยาสเตียรอยด์โดยไม่จำเป็น ระมัดระวังป้องกันการบาดเจ็บที่ดวงตา และการควบคุมโรคประจำตัวต่างๆ สำหรับผู้ที่ต้องการรักษาต้อหิน สามารถเข้ารับบริการได้ที่โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพซึ่งให้บริการดูแลและรักษาโรคและอาการที่เกี่ยวข้องกับดวงตาอย่างครบวงจร

ที่อยู่

Laser Vision International LASIK Center

10/989 ซ.ประเสริฐมนูกิจ 33 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10230

ช่องทางติดต่อ

Line
calling
ติดต่อเรา :