มุมสุขภาพตา : #Natural Tears

เรียงตาม

ဆလင်ဒါရှိသူတွေအတွက် Modern LASIK: မှုန်ဝါးနေတဲ့အမြင်ကို ရှင်းလင်းပြတ်သားစေဖို့

  ဆလင်ဒါရှိသူတွေအတွက် LASIK: မှုန်ဝါးနေတဲ့အမြင်ကို ရှင်းလင်းပြတ်သားစေဖို့ Astigmatism ဆိုတာ မျက်စိမှုန်ဝါးခြင်းကို ဖြစ်စေတဲ့ အဖြစ်များတဲ့ အကြောင်းရင်းတွေထဲက တစ်ခုပါ။ ကိုယ့်မျက်မှန်ပါဝါမှာ "ဆလင်ဒါ" (Cylinder) ပါနေတဲ့သူတွေ ကြုံတွေ့ရလေ့ရှိတဲ့ ပြဿနာတစ်ခုပေါ့။ လူတော်တော်များများက LASIK လုပ်တယ်ဆိုတာ အနီးမှုန်နဲ့ အဝေးမှုန်အတွက်ပဲလို့ ထင်ကြပေမဲ့၊ တကယ်တော့ LASIK ဟာ ဆလင်ဒါကိုပါ အရမ်းကို ထိထိရောက်ရောက် ပြုပြင်ပေးနိုင်ပါတယ်။ သင်လည်း မျက်မှန်နဲ့ မျက်ကပ်မှန်တွေကိုပဲ အားကိုးနေရတယ်ဆိုရင် LASIK က သင်စောင့်မျှော်နေတဲ့ အဖြေတစ်ခု ဖြစ်လာနိုင်ပါတယ်။ ဆလင်ဒါပါဝါဆိုတာ ဘာလဲ? ဒါကို အလွယ်ပြောရရင် မျက်လုံးက ဘတ်စကတ်ဘောလုံးလို လုံးဝိုင်းမနေဘဲ ရပ်ဘီဘောလုံးလို ဘဲဥပုံရှည်ထွက်နေတာမျိုးပါ။ မျက်လုံးရဲ့အရှေ့ဘက်ခြမ်းက မျက်ကြည်လွှာ (Cornea) ရဲ့ မျက်နှာပြင်က အခုလို မညီညာတဲ့အခါ အလင်းတန်းတွေက တစ်နေရာတည်းမှာ စုစည်းမကျတော့ဘဲ နေရာအများကြီးမှာ ပြန့်ကျဲသွားစေပါတယ်။ ဒီလို မျက်ကြည်လွှာပုံသဏ္ဌာန် မညီညာတာကြောင့်ပဲ မျက်မှန်တပ်တဲ့အခါ "ဆလင်ဒါ" ပါဝါကို ထည့်သုံးရတာဖြစ်ပါတယ်။ ရလဒ်ကတော့? အနီးအဝေးအားလုံးမှာ အမြင်အာရုံက ဝါးတားတား ဒါမှမဟုတ် ပုံရိပ်တွေက ဆွဲဆန့်နေသလို ဖြစ်နေတာပါပဲ။ တချို့လူတွေမှာဆိုရင် ညဘက် မီးလုံးတွေကြည့်ရင် အလင်းတွေ ပြန့်ကားနေတာ (glare)၊ မီးရောင်ဘေးမှာ အကွင်းလိုက်ဖြစ်နေတာ (halos) ဒါမှမဟုတ် အရိပ်ထပ်သလိုမျိုး မြင်ရတာတွေ (ghost images) ဖြစ်တတ်ပါတယ်။ LASIK နဲ့ ဆလင်ဒါကို ကုသလို့ရလား? သေချာပေါက် ကုသလို့ရပါတယ်။ LASIK ကုသမှုမှာ တိကျတဲ့ လေဆာရောင်ခြည်ကိုသုံးပြီး မျက်ကြည်လွှာရဲ့ ဘဲဥပုံသဏ္ဌာန်ကို ပိုပြီးလုံးဝန်းညီညာသွားအောင် ပြန်လည်ညှိပေးလိုက်တာပါ။ ဒီလိုလုပ်လိုက်တဲ့အခါ အလင်းတန်းတွေက မြင်လွှာ (Retina) ပေါ်ကို တည့်တည့်မတ်မတ် ပြန်ကျရောက်သွားပြီး ကြည်လင်ပြတ်သားတဲ့ အမြင်အာရုံကို ပြန်ရရှိစေပါတယ်။ ခေတ်မီ LASIK နည်းပညာတွေက သင့်မျက်မှန်ပါဝါထဲက အနီး/အဝေးမှုန် ပါဝါတွေအပြင် ဆလင်ဒါ ပါဝါကိုပါ တစ်ပြိုင်နက်တည်း တိတိကျကျ ပြုပြင်ပေးနိုင်ပါတယ်။ LASIK လုပ်ပြီးရင် ဘာတွေမျှော်လင့်နိုင်မလဲ? လူနာအများစုက နာရီပိုင်းအတွင်းမှာပဲ အမြင်အာရုံ သိသိသာသာ ကြည်လင်လာတာကို သတိထားမိကြပါတယ်။ ပထမ ရက်သတ္တပတ်အနည်းငယ်မှာ မျက်လုံးအနည်းငယ်ခြောက်တာ၊ အလင်းစူးတာမျိုး ခဏတာဖြစ်နိုင်ပေမဲ့ အချိန်ကြာလာတာနဲ့အမျှ သက်သာသွားလေ့ရှိပါတယ်။ လူနာအများစုကတော့ နေ့စဉ်ဘဝမှာ၊ အားကစားလုပ်တဲ့အခါ၊ ခရီးသွားတဲ့အခါတွေမှာ မျက်မှန်နဲ့ မျက်ကပ်မှန်မလိုတော့ဘဲ လွတ်လပ်ပေါ့ပါးသွားကြပါတယ်။ 👉 ဆိုတော့ကာ . . . ဆလင်ဒါပါဝါရှိနေတာက စိုးရိမ်စရာ မဟုတ်ပါဘူး။ LASIK နဲ့ဆိုရင် ဆလင်ဒါ ကိုသာမက၊ အနီးမှုန် ဒါမှမဟုတ် အဝေးမှုန်တွေကိုပါ တစ်ခါတည်း ပြုပြင်နိုင်တဲ့အတွက် မျက်မှန်နဲ့ မျက်ကပ်မှန်ကို အမြဲတမ်းမှီခိုနေစရာမလိုဘဲ ကြည်လင်တဲ့အမြင်အာရုံကို ရေရှည်ပိုင်ဆိုင်နိုင်မှာ ဖြစ်ပါတယ်။ နေ့ရက်တိုင်းမှာ ပိုပြီး လွတ်လပ်ပေါ့ပါး ကြည်လင်ပြတ်သားစွာ မြင်တွေ့ဖို့ အဆင်သင့်ဖြစ်ပြီဆိုရင် LASER VISION LASIK CENTER, Bangkok Eye Hospital ရဲ့ Refractive Surgery Specialist တွေနဲ့ လာရောက်ဆွေးနွေးတိုင်ပင်လိုက်ပါ။ ပိုကောင်းတဲ့ အမြင်အာရုံအတွက် ပထမဆုံးခြေလှမ်းက ရက်ချိန်းရယူလိုက်ရုံပါပဲ။
อ่านเพิ่มเติม
ศูนย์เลสิก LASER VISION

เรื่องของน้ำตา

เรื่องของน้ำตา น้ำตาธรรมชาติ ผลิตจากต่อมน้ำตาของคนเรา มีหน้าที่สำคัญหลายอย่าง คือ ให้ความชุ่มชื้นแก่กระจกตาและเยื่อบุตา ปรับสภาพของกระจกตาให้มีความเรียบ เพื่อให้แสงผ่านได้สะดวก การมองเห็นชัดเจน ให้สารอาหารและออกซิเจน รวมทั้งขจัดของเสียออกจากกระจกตา มีสารอย่างอ่อนป้องกันการติดเชื้อของกระจกตา      น้ำตาธรรมชาติมีความสำคัญมาก เมื่อตาของคนเราเกิดจุดแห้งขึ้นจากการที่น้ำตาธรรมชาติบนกระจกตาหรือเยื่อบุตาระเหยไป ระบบอัตโนมัติในร่างกายเราจะสั่งการให้เกิดการกระพริบตา การกระพริบตาเป็นการกระจายน้ำตาธรรมชาติให้กระจายไปทั่วกระจกตาและเยื่อบุตา เราจึงรู้สึกสบายตา      เมื่อร่างกายผลิตน้ำตาธรรมชาติที่ใช้ในการหล่อลื่นกระจกตาและเยื่อบุตาไม่เพียงพอ  จะทำให้เกิดอาการตาแห้ง  ตาแดง  ระคายเคืองตา  แสบตา ตาพร่า  ตาสู้แสงไม่ได้  หากท่านมีอาการเหล่านี้ควรปรึกษาจักษุแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุ   น้ำตาเทียม      น้ำตาเทียม เป็นสารที่ผลิตขึ้นเพื่อทดแทนน้ำตาธรรมชาติในผู้ที่ผลิตน้ำตาได้น้อยกว่าปกติ หรือมีภาวะตาแห้ง  ใช้หล่อลื่นและให้ความชุ่มชื่นแก่กระจกตา  ช่วยป้องกันและบรรเทาอาการเคืองตา หรืออาการรู้สึกไม่สบายตา เนื่องจากตาโดนลมและแสง   น้ำตาเทียมสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดด้วยกัน คือ น้ำตาเทียมชนิดที่มีสารกันเสีย สารกันเสีย ช่วยให้น้ำตาเทียมคงสภาพอยู่ได้นาน และป้องกันการเติบโตของเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนเข้าไปขณะหยอด หลังจากเปิดขวดใช้งานแล้ว สามารถเก็บได้นาน 1 เดือน และสามารถใช้ได้ไม่เกินวันละ 5 ครั้ง น้ำตาเทียมชนิดไม่มีสารกันเสีย มีลักษณะเป็นหลอดขนาดเล็กๆใช้หยอดในแต่ละวันแล้วทิ้งไปเลย มักให้ความรู้สึกสบายตากว่า เนื่องจากไม่มีสารกันเชื้อแบคทีเรียผสมอยู่จึงต้องใช้ภายใน 24 ชั่วโมง สามารถใช้ได้บ่อยทุก 2 ชั่วโมง ข้อดีคือผู้ป่วยจะไม่มีอาการแพ้เลย แต่มักมีราคาสูงกว่าน้ำตาเทียมชนิดแรก   โดยทั่วๆไปน้ำตาเทียม มีทั้งรูปแบบสารละลาย เจล และขี้ผึ้ง รูปแบบสารละลาย ให้ความสะดวกในการใช้ รูปแบบเจล หรือขี้ผึ้ง มีคุณสมบัติหล่อลื่นและรักษาความชุ่มชื้นที่ตาได้นานกว่าสารละลาย      เมื่อใช้น้ำตาเทียมไม่ว่าจะเป็นชนิดหยอด เจล  หรือ ขี้ผึ้ง น้ำตาเทียมจะทำหน้าที่เคลือบอยู่บนผิวกระจกตา  และต้องใช้เวลาในการกระจายตัวไปทั่วผิวตา ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการตามัวได้ชั่วคราว การที่น้ำตาเทียมทำหน้าที่เคลือบผิวกระจกตาไว้นั้น  ก็เพื่อทำให้เกิดการเก็บรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตา ซึ่งจะทำให้รู้สึกสบายตามากขึ้น   วิธีใช้น้ำตาเทียม ล้างมือให้สะอาดก่อนหยอดน้ำตาเทียม เขย่าขวดยาถ้ายานั้นระบุว่ให้เขย่าขวดก่อนใช้ เปิดขวดยา อย่าให้นิ้วสัมผัสกับปลายขวดยาเพื่อหลึกเลี่ยงการปนเปื้อนของน้ำยา นอนหรือนั่ง แหงนหน้ามองขึ้นข้างบน ใช้มือดึงเปลือกตาล่างให้เป็นกระพุ้งหยอดตาแต่ละข้าง ข้างละ 1 – 2 หยด หรือตามที่แพทย์สั่ง ปล่อยมือจากการดึงเปลือกตาล่างและอย่ากระพริบตาสักครู่ (อย่างน้อย 30 วินาที) หรือทำตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร เมื่อหยอดตาแล้วอาจมีอาการตาพร่ามัวชั่วขณะ ดังนั้นจึงควรระมัดระวังเมื่อขับขี่ยานพาหนะ หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล   วิธีเก็บรักษาน้ำตาเทียม ให้เก็บยาในที่เย็น ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส ห้ามใช้เมื่อน้ำยาเปลี่ยนสี หรือสีขุ่น   คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับน้ำตาเทียม คำถาม: ในคนปกติทั่วๆไป จำเป็นต้องใช้น้ำตาเทียมหรือไม่? ตอบ น้ำตาเทียมเป็นยาหยอดตาประเภทหนึ่งซึ่งช่วยให้ความชุ่มชื่นกับดวงตา โดยปกติคนเราจะมีการกระพริบตาเฉลี่ยนาทีละ 10 -15 ครั้งเพื่อให้น้ำหล่อเลี่ยงลูกตามาฉาบดวงตา ดังนั้นในคนปกติทั่วๆไปที่รู้สึกเคืองตา หรือระคายเคืองตา อาจเกิดจากภาวะที่เรียกว่า “ตาแห้ง หรือ Dry Eye” การใช้น้ำตาเทียมก็จะช่วยให้รู้สึกสบายตา และลดอาการดังกล่าวได้   คำถาม: ใครบ้างที่ควรใช้น้ำตาเทียม? ตอบ สำหรับผู้ที่ควรใช้น้ำตาเทียมนอกจากผู้ที่ใช้ตามคำสั่งแพทย์แล้ว ยังมีผู้สูงอายุ ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน และกลุ่มคนที่ทำงานเกี่ยวกับจอคอมพิวเตอร์ สำหรับผู้สูงอายุจะมีปัญหาเรื่องน้ำหล่อเลี้ยงลูกตาแห้ง เนื่องจากปัญหาการทำงานของต่อมน้ำตาลดลงตามอายุ ผู้หญิงที่หมดประจำเดือนจะทำให้น้ำหล่อเลี้ยงลูกตาลดลงกว่าคนปกติทั่วๆไป   กลุ่มคนที่ทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กลุ่มนี้อาจเกิดจากการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ทำให้มีการกระพริบตาน้อยกว่าปกติ ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะตาแห้งได้ ในผู้ทีต้องนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ควรพักสายตาทุกครึ่งชั่วโมง หรือเมื่อรู้สึกแสบตา เคืองตา ควรหลับตาพักสัก 3 -5 วินาที เพื่อบรรเทาอาการดังกล่าว   คำถาม: น้ำตาเทียมใช้ได้บ่อยครั้งแค่ไหน? ตอบ สำหรับผู้ใช้งานโดยทั่วไป ที่หยอดน้ำตาเทียมเพื่อให้ดวงตาชุ่มชื้น และรู้สึกสบายตา สามารถใช้งานได้โดยเฉลี่ยไม่เกิน 4-5 ครั้งต่อวัน แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาภาวะตาแห้ง หรือช่วยในการรักษาตาผิดปกติอื่นๆ สามารถใช้ได้บ่อยตามคำสั่งแพทย์        สำหรับผู้ที่เข้ารับการรักษาด้วยวิธีเลสิค หรือ เลสิก (LASIK) แพทย์จะสั่งให้หยอดน้ำตาเทียม เพื่อช่วยรักษาอาการตาแห้งในระยะแรกซึ่งอาการดังกล่าวจะค่อยๆ ดีขึ้น ในช่วงระยะเวลา 3 – 6 เดือน    

ที่อยู่

Laser Vision International LASIK Center

10/989 ซ.ประเสริฐมนูกิจ 33 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10230

ช่องทางติดต่อ

Line
calling
ติดต่อเรา :