สายตาสั้นมีกี่ระดับ? รู้ทันสาเหตุ อาการ พร้อมวิธีรักษาและป้องกัน!
‘สายตาสั้น’เป็นปัญหาทางสายตาที่หลายคนอาจพบเจอ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุเพิ่มขึ้น และหลายคนอาจจะยังสับสนอยู่ว่ามองไกลไม่ชัดสายตาสั้นหรือยาว? สายตาสั้นไม่ได้มีแค่ระดับเดียว แต่มีหลายระดับที่ส่งผลต่อการมองเห็นแตกต่างกันไป และไม่เพียงแค่ทำให้มองเห็นวัตถุในระยะไกลไม่ชัดเจนเท่านั้น แต่ในบางกรณีอาจส่งผลให้มองแทบไม่เห็นในที่สว่างหรือที่มีแสงจ้า
บทความนี้จะพาไปเช็กระดับของสายตาสั้น วิธีสังเกตอาการแบบง่ายๆ พร้อมแนะนำแนวทางรักษาและป้องกันไม่ให้สายตาแย่ลง
สายตาสั้นคือการที่แสงไม่โฟกัสที่จอประสาทตา แต่ไปตกที่ด้านหน้าของจอ ทำให้มองเห็นภาพไกลไม่ชัดเจน โดยมีปัจจัยต่างๆ เช่น ลูกตามีความยาวเกินไป กระจกตาหรือเลนส์โค้งมากเกินไป พันธุกรรม สิ่งแวดล้อม อายุ และการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย รวมถึงปัจจัยทางการแพทย์
การเช็กระดับสายตาสั้นแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับเบา (Dioptre -0.25 ถึง -3.00) มักไม่รุนแรง ระดับปานกลาง (Dioptre -3.00 ถึง -6.00) ต้องการแว่นตาหรือคอนแท็กต์เลนส์ และระดับรุนแรง (Dioptre > -6.00) ซึ่งอาจต้องใช้แว่นตาความหนาสูงหรือพิจารณาผ่าตัด
การรักษาสายตาสั้นมี 3 วิธีหลักๆ คือการใส่แว่นตาช่วยปรับแสงให้โฟกัสที่จอประสาทตา การใช้คอนแท็กต์เลนส์ที่สะดวก และการทำเลสิกที่สามารถแก้ไขปัญหาสายตาสั้นอย่างถาวร ที่มีการปรับรูปทรงของกระจกตาด้วยเลเซอร์
สายตาสั้นเกิดจากอะไร? ปัจจัยที่ทำให้เกิดสายตาสั้น
สายตาสั้น (Myopia) เกิดขึ้นเมื่อแสงที่ผ่านเข้ามาในดวงตาของเรามีการโฟกัสผิดที่ ไม่ว่าจะเกิดสายตาสั้นข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง โดยปกติแล้ว เมื่อแสงผ่านกระจกตา (Cornea) และเลนส์ตา (Lens) จะต้องโฟกัสไปที่จอประสาทตา (Retina) เพื่อให้เราเห็นภาพที่ชัดเจน แต่ในกรณีของผู้ที่มีสายตาสั้น แสงจะไม่ได้ตกลงบนจอประสาทตาโดยตรง แต่จะตกไปที่ด้านหน้าของจอประสาทตา ทำให้ภาพที่เราเห็นในระยะไกลไม่ชัดเจนหรือเห็นภาพเบลอ
โดยสาเหตุที่ทำให้สายตาสั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ดังนี้
1. ลูกตามีความยาวมากเกินไป
สาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดของสายตาสั้นคือลูกตายาวเกินไป จากด้านหน้าไปด้านหลัง (จากกระจกตาถึงจอประสาทตา) เมื่อขนาดของลูกตามีความยาวมากเกินไป การโฟกัสของแสงจะเกิดขึ้นก่อนที่จอประสาทตา ทำให้เกิดภาพเบลอในระยะไกล เพราะแสงไม่ได้โฟกัสตรงจุดที่จอประสาทตา (Retina) ซึ่งควรจะเป็นจุดที่แสงรวมตัวกันเพื่อให้เห็นภาพที่คมชัด
2. กระจกตาหรือเลนส์ตาโค้งมากเกินไป
ในบางกรณีกระจกตาหรือเลนส์ตาของผู้ที่มีสายตาสั้นจะโค้งมากเกินไป ซึ่งทำให้แสงหักเหมากเกินไปและไม่สามารถโฟกัสที่จอประสาทตาได้เช่นกัน การหักเหที่มากเกินไปทำให้แสงไปตกที่ด้านหน้าของจอประสาทตา ทำให้ภาพไม่ชัดเจนเมื่อมองในระยะไกล
3. พันธุกรรม
สายตาสั้นสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ หากมีสมาชิกในครอบครัวที่มีสายตาสั้น โอกาสที่ลูกหลานจะมีสายตาสั้นก็จะสูงขึ้น โดยเฉพาะถ้าพ่อแม่สายตาสั้นทั้งสองคนหรือมีอาการสายตาสั้นในระดับรุนแรง
4. ปัจจัยสิ่งแวดล้อม
ปัจจัยสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้สายตาในระยะใกล้เป็นเวลานานๆ อาจทำให้สายตาสั้นได้ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่มีการใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัล เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ หรือการอ่านหนังสือในระยะใกล้เป็นเวลานาน อาจทำให้กล้ามเนื้อที่ควบคุมการโฟกัสของตาเกิดความเครียด จนทำให้การหักเหของแสงผิดปกติได้
5. อายุและการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย
แม้ว่าสายตาสั้นมักจะเริ่มต้นในช่วงวัยเด็กหรือวัยรุ่น แต่ในบางกรณีสามารถเกิดขึ้นในวัยผู้ใหญ่ได้เช่นกัน การเปลี่ยนแปลงในกระบวนการพัฒนาและการเจริญเติบโตของดวงตาอาจมีส่วนทำให้เกิดสายตาสั้นขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากการเจริญเติบโตของกระจกตาหรือความยาวของลูกตาที่เพิ่มขึ้น
6. ปัจจัยทางการแพทย์บางประการ
บางครั้งการมีปัญหาทางสุขภาพหรือได้รับบาดเจ็บที่ดวงตา อาจทำให้เกิดอาการสายตาสั้นได้ เช่น การผ่าตัดตาหรือการได้รับแสง ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างตา
สังเกตอาการเริ่มต้นของสายตาสั้น ที่ไม่ควรมองข้าม
สายตาสั้นมีอาการเริ่มต้นที่สังเกตได้จากการมองเห็นไม่ชัดเจนในระยะไกล และบางครั้งอาจจะรู้สึกว่ามองไม่เห็นสิ่งต่างๆ ที่อยู่ไกลออกไปได้ดีเหมือนเมื่อก่อน อาจจะเริ่มเห็นภาพเบลอเมื่อมอง ต้องเพ่งสายตาเมื่อมองสิ่งที่อยู่ไกลออกไปหรืออาจจะรู้สึกปวดตาเมื่อต้องเพ่งสายตามากๆ
เมื่อเกิดอาการสายตาสั้น ภาพที่เห็นจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน เช่น การไม่สามารถอ่านป้ายถนนหรือเลขทะเบียนรถได้ชัดเจนจากระยะไกล ซึ่งมักเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าอาจเริ่มมีปัญหาสายตาสั้น การมองเห็นภาพที่ไม่ชัดเจนในระยะไกลเป็นหนึ่งในอาการที่สามารถสังเกตได้ง่าย และมักเป็นจุดเริ่มต้นของการมีสายตาสั้นที่หลายคนมักจะพบในระยะแรก
เช็กระดับสายตาสั้น รู้ทันความรุนแรงของอาการ
การเช็กระดับสายตาสั้นคือการประเมินว่าความผิดปกติในสายตาของเรานั้นรุนแรงเพียงใด ซึ่งช่วยให้รู้ว่าอาการอยู่ในระดับไหน สายตาสั้นค่าลบหรือค่าบวก และควรรักษาหรือปรับปรุงการดูแลอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาสายตาลุกลามมากขึ้น
สายตาสั้นมีกี่ระดับ? สามารถแบ่งระดับความรุนแรงออกเป็น 3 ระดับได้ ดังนี้
ระดับเบา (Mild Myopia)
สายตาสั้นระดับเบาจะมีค่า Dioptre -0.25 ถึง -3.00 Dioptre ในระดับนี้มักไม่รุนแรงมาก สามารถมองเห็นในระยะใกล้ได้ชัดเจน แต่จะมีปัญหาบ้างในการมองเห็นในระยะไกล เช่น การอ่านป้ายถนนหรือเลขทะเบียนรถจากระยะไกล อาจไม่จำเป็นต้องรักษาทันที แต่แนะนำให้ตรวจสายตาประจำปีเพื่อดูความเปลี่ยนแปลง
ระดับปานกลาง (Moderate Myopia)
สายตาสั้นระดับปานกลางจะมีค่า Dioptre -3.00 ถึง -6.00 Dioptre ในระดับนี้มีปัญหาการมองเห็นในระยะไกลชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะในสภาพแสงน้อยหรือระหว่างการขับขี่ที่ต้องการแว่นตาหรือคอนแท็กต์เลนส์เพื่อช่วยในการมองเห็นในระยะไกล อาจพิจารณาการรักษาด้วยการผ่าตัดเลสิกถ้าจำเป็น
ระดับรุนแรง (Degenerative Myopia)
สายตาสั้นระดับรุนแรงมีค่า Dioptre มากกว่า -6.00 Dioptre อาการในระดับนี้จะมีปัญหามากขึ้นในการมองเห็นระยะไกล อาจมองเห็นภาพเบลอทั้งในระยะไกลและใกล้ ได้รับผลกระทบในการใช้ชีวิตประจำวัน จำเป็นต้องใช้แว่นตาหรือคอนแท็กต์เลนส์ที่มีค่าสายตาสูง ในบางกรณีอาจต้องพิจารณาผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาสายตาสั้นด้วย
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากมีปัญหาสายตาสั้น
อาการสายตาสั้น นอกจากจะส่งผลกระทบต่อการมองเห็นในระยะไกลแล้ว ยังมีผลกระทบต่อหลายๆ ด้านในชีวิตประจำวัน ซึ่งอาจสร้างความลำบากหรือความไม่สะดวกในการทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียน หรือการใช้ชีวิตในกิจกรรมประจำวัน
หากไม่ได้รับการรักษาหรือการดูแลที่เหมาะสม สายตาสั้นอาจส่งผลกระทบในหลายด้าน ดังนี้
การขับรถยนต์และการเดินทางสายตาสั้นทำให้ไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ไกลๆ ชัดเจน เช่น ป้ายจราจร ทำให้ขับขี่ไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะในเวลากลางคืน
การเรียนและการทำงานที่ต้องใช้สายตาระยะไกลนักเรียนและผู้ทำงานที่ต้องดูสิ่งที่อยู่ไกล เช่น กระดานหรือจอคอมพิวเตอร์ จะมองเห็นไม่ชัด ทำให้ไม่สะดวกในการทำงาน
ความเครียดและปวดตาการเพ่งสายตาหรือมองสิ่งเบลอเป็นเวลานานทำให้เกิดความเครียดและปวดตา ซึ่งส่งผลให้รู้สึกไม่สบายได้
การทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือกีฬาการมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ไกลๆ เช่น ลูกบอลในกีฬา อาจทำให้เล่นกีฬาได้ไม่ดี หรือเกิดอุบัติเหตุได้
ผลกระทบทางจิตใจและความมั่นใจคนที่มีสายตาสั้นอาจรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองเมื่อไม่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ในระยะไกลได้ชัดเจน
ปัญหาในการทำกิจวัตรประจำวันกิจวัตรประจำวัน เช่น การขับรถหรือดูโทรทัศน์ จะรู้สึกว่าทำอะไรก็ไม่สะดวก เพราะมองสิ่งต่างๆ ได้ไม่ชัดเจน
ผลกระทบจากการไม่รักษาหากไม่รักษาสายตาสั้นอาจทำให้ภาวะสายตาแย่ลงเรื่อยๆ และเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางตาอื่นๆ ในอนาคต
แนวทางการรักษาสายตาสั้น
การรักษาสายตาสั้นสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการและความสะดวกในการใช้ชีวิตของแต่ละคน โดยหลักๆ แล้วมี 3 วิธีในการรักษาสายตาสั้นที่ได้รับความนิยม ดังนี้
1. การใส่แว่นตา
แว่นตาเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและสะดวกที่สุดในการแก้ไขปัญหาสายตาสั้น แว่นตาจะช่วยปรับให้แสงโฟกัสตรงจอประสาทตา โดยแว่นตาจะทำหน้าที่ช่วยให้ผู้ที่มีสายตาสั้นสามารถมองเห็นวัตถุที่อยู่ไกลได้ชัดเจนขึ้น วิธีนี้เป็นวิธีที่ปลอดภัยและไม่เจ็บปวด เหมาะสำหรับผู้ที่มีสายตาสั้นในระดับที่ไม่รุนแรงมาก หรือผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด
2. การใส่คอนแท็กต์เลนส์
คอนแท็กต์เลนส์เป็นตัวเลือกที่นิยมในหมู่คนที่ไม่ต้องการใส่แว่นตา หรือไม่ชอบให้มีกรอบแว่นบนใบหน้า คอนแท็กต์เลนส์จะทำหน้าที่เหมือนแว่นตา ช่วยปรับการโฟกัสแสงให้ถูกต้อง ทำให้ผู้ที่มีสายตาสั้นสามารถมองเห็นได้ชัดเจน แต่ข้อดีของคอนแท็กต์เลนส์คือจะไม่มีกรอบแว่นมาขวางทางการมองเห็น และสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้สะดวกมากขึ้น เช่น การเล่นกีฬา หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง
3. การผ่าตัดเลเซอร์ (LASIK)
การรักษาสายตาสั้นด้วยเลสิกเป็นวิธีที่ช่วยรักษาสายตาสั้นอย่างถาวร โดยการใช้เลเซอร์ปรับรูปทรงของกระจกตา เพื่อให้แสงที่เข้าสู่ตาตกลงบนจอประสาทตาอย่างถูกต้อง วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีสายตาสั้นในระดับสูง หรือผู้ที่ไม่ต้องการใช้แว่นตาและคอนแท็กต์เลนส์อีกต่อไป
การทำเลสิกเป็นวิธีที่มีความปลอดภัยและสามารถช่วยแก้ปัญหาสายตาสั้นได้อย่างถาวร แต่ก็ต้องได้รับการประเมินจากแพทย์ก่อนว่าเหมาะสมกับการทำผ่าตัดวิธีไหน หรือเหมาะกับการผ่าตัดหรือไม่
รวม 7 วิธีง่ายๆ ที่ช่วยป้องกันสายตาสั้น
ป้องกันสายตาสั้นได้โดยการดูแลและปฏิบัติตามวิธีต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสื่อมสภาพของสายตาและลดความเสี่ยงสายตาสั้น ดังนี้
หากต้องใช้สายตานานๆ เช่น อ่านหนังสือหรือใช้คอมพิวเตอร์ ควรพักสายตาทุก 20 - 30 นาที โดยมองห่างจากจอหรือหนังสือประมาณ 20 ฟุต (6 เมตร) เป็นเวลา 20 วินาที เพื่อให้กล้ามเนื้อตาต้องการพักผ่อนและไม่เกิดความเครียด
ควรจัดแสงในพื้นที่ทำงานหรือการเรียนให้เหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงการเพ่งสายตาในสภาพแสงที่ไม่เพียงพอหรือจ้ามากเกินไป ซึ่งจะช่วยให้สายตามีความสะดวกในการทำงาน
ควรตั้งระยะห่างจากจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือให้ห่างจากตาประมาณ 40 - 50 เซนติเมตร และไม่ควรมองหน้าจอจากระยะใกล้เกินไป เพราะอาจทำให้เกิดความเครียดกับดวงตา
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอช่วยให้ดวงตาได้พักและฟื้นฟูจากการใช้งานหนัก
รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพตา โดยเฉพาะอาหารที่มีวิตามิน A, C, E และแร่ธาตุอื่นๆ เช่น ผักใบเขียวและผลไม้สด เพื่อช่วยเสริมสร้างสุขภาพตาและป้องกันการเกิดปัญหาทางสายตา
ควรตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ ไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพตา เพราะหากพบว่าเป็นสายตาสั้นในระยะแรก จะช่วยให้รักษาได้ทันเวลาและป้องกันไม่ให้สายตาแย่ลง
หลีกเลี่ยงใช้สายตานานๆ หรือมองสิ่งต่างๆ ในระยะใกล้เป็นเวลานาน เช่น การอ่านหนังสือหรือใช้โทรศัพท์มือถือ ควรพักสายตาหรือเปลี่ยนกิจกรรมบ้างเพื่อไม่ให้เกิดความเครียดต่อดวงตา
รักษาสายตาสั้น ที่ศูนย์รักษาตา Bangkok Eye Hospital ดีอย่างไร
ศูนย์รักษาตา Bangkok Eye Hospital บริการตรวจวินิจฉัยด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและผู้ชำนาญการ ที่พร้อมให้คำแนะนำและการรักษาสายตาสั้นในรูปแบบต่างๆ
ผู้มีประสบการณ์ด้านการดูแลดวงตาเฉพาะทาง ให้บริการครอบคลุมทุกโรคเกี่ยวกับดวงตา
การตรวจสุขภาพตาโดยรวม ตรวจสอบสุขภาพของดวงตาและหาความผิดปกติอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อการมองเห็น
การตรวจวัดค่าสายตา (Refraction Test) โดยประเมินค่าสายตาเพื่อหาค่าความผิดปกติและกำหนดค่าสายตาที่เหมาะสม
ใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยในการรักษา
สรุป
สายตาสั้นเกิดจากการที่แสงโฟกัสผิดที่ในดวงตาทำให้มองเห็นภาพไกลไม่ชัดเจน ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดสายตาสั้น ได้แก่ ลูกตามีความยาวเกินไป กระจกตาหรือเลนส์ตาโค้งมากเกินไป และพันธุกรรม สาเหตุอื่นๆ อย่างปัจจัยสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้สายตาใกล้เป็นเวลานาน และการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ที่เกิดขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้น หากมีอาการสายตาสั้นควรเช็กระดับความรุนแรงเพื่อเลือกวิธีรักษา เช่น การใส่แว่นตา คอนแท็กต์เลนส์ หรือการผ่าตัดเลเซอร์ (LASIK)
นอกจากนี้ การป้องกันสายตาสั้นสามารถทำได้โดยการพักสายตาอย่างเหมาะสม การออกกำลังกาย และการตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ ก็สามารถป้องกันสายตาสั้นได้ด้วย หากต้องการรักษาสายตาสั้น ที่ศูนย์รักษาตาBangkok Eye Hospital (โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ)มีความมุ่งมั่นในการให้บริการด้วยเทคโนโลยีทันสมัยโดยผู้มีประสบการณ์ในการรักษาสายตาสั้น พร้อมดูแลหลังการรักษาอย่างมีคุณภาพ รวมถึงให้คำแนะนำที่เหมาะสมและติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง
อ่านบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
เลสิกสายตาสั้น บอกลาปัญหามองเห็นไม่ชัด พร้อมการเตรียมตัวก่อนทำ
การตรวจตาก่อนทำเลสิกคืออะไร ทำไมต้องตรวจถึง 3 ชั่วโมง?!!
ทำเลสิกที่ไหนดี? เปรียบเทียบเทคนิคและเกณฑ์การเลือกโรงพยาบาล
FAQ – คำถามที่พบบ่อย
สายตาสั้น มีกี่ระดับ?
สายตาสั้นแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับเบา (Dioptre -0.25 ถึง -3.00) ระดับปานกลาง (Dioptre -3.00 ถึง -6.00) และระดับรุนแรง (Dioptre มากกว่า -6.00) การมองเห็นในระยะไกลจะยิ่งเบลอเมื่อระดับสายตาสั้นสูงขึ้น
ระดับสายตาสั้นเท่าไรถึงจะอันตราย?
สายตาสั้นที่มีค่า Dioptre มากกว่า -6.00 อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสายตาอื่นๆ และอาจต้องการการรักษาเพิ่มเติม
สายตาสั้นแก้อย่างไร?
สายตาสั้นแก้ได้ด้วยการใส่แว่นตา คอนแท็กต์เลนส์ หรือการทำเลสิก เพื่อปรับรูปทรงของกระจกตาให้แสงโฟกัสที่จอประสาทตา
สายตาสั้นไม่ใส่แว่น อันตรายหรือไม่?
สามารถไม่ใส่แว่นได้ แต่อาจทำให้มองเห็นในระยะไกลไม่ชัดเจน และอาจเสี่ยงต่ออุบัติเหตุหรือความผิดปกติของสายตาในระยะยาว