Computer Vision Syndrome คืออะไร? จ้องจอนานไป อาจเป็นไม่รู้ตัว
Computer Vision Syndrome คืออาการเมื่อยล้าดวงตาจากการใช้หน้าจอดิจิทัลเป็นเวลานาน เช่น คอมพิวเตอร์หรือมือถือ
อาการของ Computer Vision Syndrome ได้แก่ ตาแห้ง แสบตา ปวดตา ตามัว ปวดหัว และปวดคอหรือไหล่
ป้องกัน Computer Vision Syndrome ได้โดยพักสายตาบ่อยๆ ปรับแสงหน้าจอให้พอดี จัดท่านั่งให้เหมาะสม ใช้แว่นกรองแสง และกะพริบตาบ่อยๆ
ยุคที่ทุกอย่างอยู่บนหน้าจอ ไม่ว่าจะทำงาน เรียน หรือพักผ่อน ดวงตาของเราต้องรับภาระหนักกว่าที่คิด หากคุณเคยรู้สึกตาแห้ง แสบตา มองไม่ชัด หรือปวดศีรษะหลังจากจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน อาจไม่ใช่แค่อาการล้า แต่คือ “Computer Vision Syndrome” หรือกลุ่มอาการที่เกิดจากการใช้สายตาหน้าจอมากเกินไป บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักอาการนี้ พร้อมวิธีป้องกันและดูแลรักษาดวงตาให้ใช้งานได้อย่างยั่งยืนในโลกดิจิทัล
Computer Vision Syndrome คืออะไร?
โรค Computer Vision Syndrome (CVS) คือกลุ่มอาการทางตาและการมองเห็นที่เกิดจากการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือมือถือเป็นเวลานาน โดยเฉพาะเมื่อมองจอในระยะใกล้เกินไป (น้อยกว่าครึ่งฟุตหรือประมาณ 6 นิ้ว) อาการจะรุนแรงขึ้นตามระยะเวลาที่ใช้งานหน้าจอ ซึ่งโรคนี้พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ โดยมีความเสี่ยงมากขึ้นหากใช้หน้าจอในที่แสงน้อย หรือมีท่านั่งที่ไม่เหมาะสมขณะใช้งาน
อาการของ Computer Vision Syndrome
ทำความรู้จักและสังเกตอาการต่างๆ ของ Computer Vision Syndrome พร้อมอาการที่พบบ่อย ดังนี้
ตาแห้งและแสบเคือง
ปวดบริเวณกระบอกตา
ตาล้าหรือรู้สึกเหนื่อยล้าสายตา
ตอบสนองต่อแสงจ้าได้น้อยลง
โฟกัสภาพช้าหรือยากขึ้น
ตาพร่ามัว
ปวดต้นคอ ปวดไหล่ ปวดหลัง หรือปวดศีรษะ
สาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดโรค CVS
หลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการใช้สายตากับหน้าจอในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้เกิดอาการ Computer Vision Syndrome เช่น
การกะพริบตาลดลงขณะจดจ่อกับการอ่านหนังสือหรือจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ ส่งผลให้ตาแห้งง่ายขึ้น
แสงสว่างภายในห้องไม่เหมาะสม ทำให้สายตาเกิดความล้า
แสงสะท้อนจากหน้าจอคอมพิวเตอร์รบกวนการมองเห็น
ตัวอักษรบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ไม่คมชัดเท่าตัวพิมพ์บนกระดาษ หรือสัญญาณภาพบนจอมีความไม่นิ่ง ทำให้ต้องเพ่งสายตามากขึ้น
ระยะห่างระหว่างดวงตากับหน้าจอที่ไม่เหมาะสม
ระดับสายตาในการมองหน้าจอที่ไม่ถูกต้อง
ท่าทางการนั่งทำงานที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้กล้ามเนื้อและสายตาเกิดความล้า
กลุ่มคนที่เสี่ยงเป็น Computer Vision Syndrome
พนักงานที่ทำงานในออฟฟิศทั่วไป
นักเขียนหรือผู้สร้างสรรค์งานเขียน
นักออกแบบกราฟิกและงานสร้างสรรค์ด้านภาพ
นักเรียนหรือนักศึกษาที่เรียนหรือใช้เวลาจ้องหน้าจอนาน
ผู้ที่ใช้เวลานานในการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่อง
แนวทางการป้องกัน Computer Vision Syndrome
วิธีจัดการหรือป้องกันปัญหาสายตาที่เกิดจากการใช้หน้าจอดิจิทัลมีหลากหลาย แต่โดยทั่วไปสามารถบรรเทาได้ด้วยการดูแลสายตาอย่างสม่ำเสมอและปรับเปลี่ยนวิธีการมองหน้าจอ ได้แก่
เติมความชุ่มชื้นให้กับดวงตา
แพทย์อาจแนะนำให้ใช้น้ำตาเทียมหยอดตาที่หาซื้อได้ตามร้านยา เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตา และแนะนำให้คุณพยายามกะพริบตาบ่อยขึ้น เพราะเวลาจ้องหน้าจอ เรามักเผลอกะพริบตาน้อยลง การกะพริบตาบ่อยๆ จะช่วยให้มีน้ำตาธรรมชาติ และบรรเทาอาการตาแห้งได้ดีขึ้น นอกจากนี้แพทย์อาจสั่งยาหยอดตาหรือวิธีรักษาอื่นๆ ที่เหมาะสมกับอาการด้วย
ใส่แว่นตาเมื่อใช้หน้าจอ
แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ทั่วไปอาจไม่เพียงพอสำหรับการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ควรตรวจสายตาปีละครั้ง และปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อพิจารณาใช้เลนส์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการมองหน้าจอ ซึ่งอาจมีการปรับกำลังเลนส์ สี หรือเคลือบพิเศษ เช่น สารเคลือบตัดแสงสีฟ้า เพื่อเพิ่มความสบายและประสิทธิภาพในการมองเห็น
ฝึกสายตา
ฝึกให้ดวงตาและสมองทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น การออกกำลังกายตาเหล่านี้ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องการเคลื่อนไหวของตา การโฟกัส และการประสานงานของดวงตา รวมถึงเสริมสร้างการเชื่อมโยงระหว่างตาและสมอง การรักษาอาจประกอบด้วยการฝึกในคลินิกควบคู่กับการฝึกที่บ้าน
ปรับท่านั่งให้เหมาะสมเมื่อใช้คอมพิวเตอร์
ปัจจัยสำคัญในการบรรเทาโรค Computer Vision Syndrome (CVS) เกี่ยวข้องกับท่านั่งและการจัดวางอุปกรณ์รอบตัวขณะใช้คอมพิวเตอร์ ได้แก่ การตั้งแสงให้พอดี ไม่สว่างหรือมืดเกินไป ใช้เก้าอี้ที่รองรับหลังได้ดี วางเอกสารไว้ใกล้มือเพื่อลดการเคลื่อนไหวคอ ปรับหน้าจอให้อยู่ในระดับสายตา และพักสายตาทุก 20 นาที โดยมองไปไกลประมาณ 6 เมตร เป็นเวลา 20 วินาที
ปรับความสว่างและความคมชัดของหน้าจอ
ความสว่างของหน้าจอควรใกล้เคียงกับความสว่างในห้อง คุณอาจต้องปรับความสว่างหน้าจอตามช่วงเวลาของวัน ส่วนความคมชัดประมาณ 60-70% จะทำให้สายตาสบายขึ้น
ควบคุมแสงสะท้อนและแสงสีฟ้า
ลดอาการตาไม่สบายจากแสงสีฟ้าและแสงสะท้อนได้ด้วยการใส่แว่นที่มีเลนส์เคลือบพิเศษ ใช้ฟิลเตอร์กันแสง ปรับจอให้เหมาะสม พร้อมใช้ผ้าม่านบังแสง และเช็ดทำความสะอาดหน้าจอให้สะอาดชัดเจน
จัดพื้นที่ทำงานให้เหมาะสม
ตั้งโต๊ะทำงานสูงประมาณ 66 ซม. และวางหน้าจอคอมพิวเตอร์ห่างจากตาประมาณ 40-75 ซม. (หรือระยะที่แขนเอื้อมถึงพอดี) โดยให้ส่วนบนของหน้าจออยู่ต่ำกว่าระดับสายตาเล็กน้อย และเอียงหน้าจอประมาณ 10-20 องศา นอกจากนี้ ควรใช้เก้าอี้ที่รองรับหลังได้ดี และใช้ที่วางเอกสารแบบปรับได้ โดยวางเอกสารให้ห่างจากตาเท่ากับระยะห่างหน้าจอและใกล้หน้าจอที่สุด เพื่อลดการปรับโฟกัสสายตาบ่อยๆ
พักสายตาเป็นประจำ
เพื่อคลายความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อตา ควรปฏิบัติตาม “กฎ 20-20-20” คือ ทุก 20 นาที ให้พักสายตา 20 วินาที โดยมองไปที่วัตถุที่อยู่ไกลประมาณ 20 ฟุต (ประมาณ 6 เมตร) นอกจากนี้เมื่อใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ควรลุกจากโต๊ะและสลับไปทำกิจกรรมอื่นที่ไม่ต้องเพ่งสายตาใกล้ เช่น เดินเล่น ยืดเส้นยืดสาย ดื่มน้ำ หรือพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน เพื่อให้ดวงตาได้พักและผ่อนคลายอย่างแท้จริง
สรุป
Computer Vision Syndrome (CVS) คืออาการล้าสายตาและปัญหาสายตาที่เกิดจากการใช้หน้าจอดิจิทัลเป็นเวลานาน เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรือแท็บเล็ต อาการที่พบได้บ่อยคือ ตาแห้ง ปวดตา มองไม่ชัด และปวดหัว การป้องกันและบรรเทาอาการนี้ทำได้โดยการปรับแสงหน้าจอให้เหมาะสม ปรับท่านั่งและระยะห่างจากหน้าจอ รวมถึงพักสายตาเป็นระยะ หากคุณมีอาการหรือกังวลเกี่ยวกับสายตา สามารถเข้ารับบริการตรวจตาและคำปรึกษาที่ โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ (Bangkok Eye Hospital) ซึ่งมีแพทย์ผู้ชำนาญและเทคโนโลยีทันสมัยช่วยดูแลสุขภาพดวงตาของคุณอย่างครบวงจร
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Computer Vision Syndrome (FAQ)
นี่คือคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Computer Vision Syndrome (CVS) เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจสาเหตุ อาการ และวิธีป้องกัน รวมถึงการดูแลสุขภาพสายตาจากการใช้งานหน้าจอดิจิทัลอย่างเหมาะสม
ใช้เวลานานไหมกว่า Computer Vision Syndrome จะหาย
ระยะเวลาของอาการ Computer Vision Syndrome ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและระยะเวลาที่ใช้หน้าจอ บางคนอาจดีขึ้นทันทีหลังเลิกใช้หน้าจอ ส่วนบางคนอาจมีอาการนานเป็นวันหรือมากกว่า
แว่นตาช่วยรักษาอาการ Computer Vision Syndrome ได้จริงไหม
ช่วยได้จริง โดยแว่นตาพิเศษช่วยลดแสงสะท้อนและความล้าของดวงตาจากการใช้คอมพิวเตอร์ได้ แต่ควรใช้ควบคู่กับการพักสายตาและปรับสภาพแสงหน้าจอเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
Computer Vision Syndrome ทำให้เกิดความเสียหายต่อตาถาวรไหม
โดยทั่วไปแล้ว Computer Vision Syndrome (CVS) ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายถาวรต่อดวงตาหรือทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร เพราะอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นมักเป็นอาการชั่วคราวที่เกิดจากความเมื่อยล้า หรือความเครียดของดวงตา และมักจะดีขึ้นเมื่อมีการพักผ่อนสายตา ปรับพฤติกรรมการใช้งาน และดูแลดวงตาอย่างเหมาะสม