ตาเหลืองหรือตาขาวเหลือง เป็นอาการที่ดวงตาหรือเยื่อบุตาขาวเปลี่ยนเป็นสีเหลือง อาจเกิดร่วมกับขี้ตาเหลือง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น โรคตับ โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินน้ำดีหรือการติดเชื้อที่ดวงตา อาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุและควรได้รับการตรวจสอบจากแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง บทความนี้จะอธิบายทุกสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับอาการตาเหลือง ตั้งแต่สาเหตุ อาการ วิธีป้องกัน และการรักษาที่เหมาะสม เพื่อให้คุณดูแลสุขภาพตาได้อย่างถูกต้อง
ตาเหลืองหรือภาวะตาขาวเหลือง (Jaundice หรือ Icterus ในทางการแพทย์) เป็นภาวะที่เยื่อบุตาขาวมีสีเหลืองผิดปกติ สาเหตุหลักมาจากการที่มีสารบิลิรูบิน (Bilirubin) ที่เป็นสารสีเหลืองที่เกิดขึ้นจากการสลายตัวของเม็ดเลือดแดงเกิดสะสมในเนื้อเยื่อของร่างกายมากเกินไป ซึ่งสารนี้จะไม่สามารถขับออกจากร่างกายได้ตามปกติ ส่งผลให้เกิดอาการตาขาวเป็นสีเหลืองและผิวหนังเหลืองตามมา
ส่วนขี้ตาเป็นสีเหลืองอาจหมายถึงภาวะที่มีสารคัดหลั่งสีเหลืองบริเวณหัวตา ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อหรือการอักเสบของเยื่อบุตา สาเหตุที่ตาขาวเหลืองนั้นจะหมายถึงส่วนของตาขาว (Sclera) ที่เปลี่ยนเป็นสีเหลือง ซึ่งมักเป็นอาการที่สังเกตได้ชัดเจนเมื่อมีการสะสมของบิลิรูบินในร่างกายสูง
โดยสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดอาการตาเหลืองสามารถแบ่งได้เป็นหลายกลุ่ม ดังนี้
ตับมีหน้าที่ในการกำจัดบิลิรูบิน ซึ่งเป็นสารที่เกิดจากการสลายตัวของเม็ดเลือดแดงเมื่อมันหมดอายุ แต่หากตับไม่สามารถทำงานได้ดีหรือเกิดความผิดปกติ จะทำให้บิลิรูบินสะสมในเลือดและในเนื้อเยื่อร่างกาย ทำให้เกิดอาการตาเหลืองได้ โดยโรคที่เกี่ยวข้องกับตับที่พบได้บ่อย เช่น
อีกสาเหตุที่พบบ่อยในการเกิดตาเหลืองคือการมีปัญหากับระบบทางเดินน้ำดี ซึ่งมีหน้าที่ขับบิลิรูบินออกจากร่างกาย ดังนี้
เม็ดเลือดแดงมีอายุขัยจำกัดและจะถูกทำลายเมื่อหมดอายุ ตับจะขับบิลิรูบินที่เกิดจากการสลายของเม็ดเลือดแดง แต่หากมีปัญหาในการสลายตัว เช่น ในโรคโลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงแตก (Hemolytic Anemia) หรือธาลัสซีเมีย การทำลายเม็ดเลือดแดงมากเกินไปจะทำให้บิลิรูบินสะสมในเลือด ส่งผลให้ตาสีเหลืองได้
แม้ว่าตาเหลืองส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับปัญหาภายในร่างกาย แต่บางครั้งอาการนี้ก็อาจเกิดจากปัญหาภายในดวงตาเอง ได้แก่
สาเหตุจากปัจจัยภายนอกที่ทำให้เกิดอาการตาเหลืองได้ เช่น การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาต้านการแพ้ หรือสเตียรอยด์ ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานของตับและทำให้บิลิรูบินสะสมในร่างกาย รวมถึงมะเร็งตับหรือมะเร็งท่อน้ำดีที่อาจทำให้ท่อน้ำดีอุดตันและไม่สามารถขับบิลิรูบินออกได้
ตาเหลืองขาดวิตามินอะไร? ตาเหลืองอาจเกิดจากการขาดวิตามิน B12 หรือโฟลิก ซึ่งมีผลต่อการทำงานของตับและระบบเลือด และการบริโภควิตามิน A ในปริมาณสูงเกินไปยังส่งผลให้ตาเหลืองได้เช่นกัน
อาการของตาเหลืองอาจแตกต่างกันไปตามสาเหตุ โดยอาการที่พบบ่อยมีดังนี้
หากมีอาการเหล่านี้ร่วมกับปัสสาวะสีเข้ม อุจจาระซีด หรือปวดท้อง ควรรีบพบแพทย์
การรักษาอาการตาเหลืองนั้นจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ โดยหลักการรักษามีดังนี้
หากอาการตาเหลืองเกิดจากโรคตับ เช่น ตับอักเสบหรือโรคตับแข็ง แพทย์อาจใช้ยาเพื่อรักษาหรือควบคุมอาการ รวมถึงคำแนะนำด้านการควบคุมอาหาร และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพตับ เช่น การหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และการทานอาหารที่มีไขมันต่ำ
ในกรณีที่อาการตาเหลืองเกิดจากการติดเชื้อที่ตา แพทย์จะให้ยาหยอดตาหรือยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาการติดเชื้อและลดอาการบวมแดง
หากอาการตาเหลืองเกิดจากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับนิ่วในถุงน้ำดีหรือตับอักเสบรุนแรง แพทย์อาจแนะนำให้ทำการผ่าตัดหรือการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม เช่น การผ่าตัดเอานิ่วออกจากถุงน้ำดี หรือการรักษาด้วยการทำความสะอาดตับ
การป้องกันไม่ให้เกิดโรคตาเหลืองนั้นสามารถทำได้ด้วยการดูแลสุขภาพให้ดีและป้องกันปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอาการตาเหลือง ดังนี้
ศูนย์รักษาตาที่มีผู้ชำนาญการเชี่ยวชาญด้านโรคตาโดยเฉพาะ มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมแนวทางการรักษาที่ตรงจุด
ตาเหลืองเกิดจากการสะสมของสารบิลิรูบินในเลือด ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับโรคตับ ระบบทางเดินน้ำดี หรือการติดเชื้อที่ดวงตา โดยอาการตาเหลืองจะทำให้ตาขาวหรือผิวหนังเป็นสีเหลือง และอาจมีขี้ตาเหลืองร่วมด้วย การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุ เช่น การรักษาโรคตับหรือการติดเชื้อที่ตา การป้องกันตาเหลืองทำได้โดยดูแลสุขภาพตับ รับประทานอาหารที่ดี หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์หรือสารเคมีที่เป็นอันตราย ควรตรวจสุขภาพตับประจำปี หากมีอาการตาเหลือง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจและรักษา
ที่ Bangkok Eye Hospital (โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ) เรามีแนวทางการรักษาที่ทันสมัยสำหรับอาการตาเหลือง โดยใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือที่แม่นยำในการตรวจหาสาเหตุของโรค พร้อมการรักษาที่เหมาะสม นอกจากนี้ เรายังมีบริการตรวจสุขภาพตาและคำปรึกษาจากผู้ชำนาญการ เพื่อป้องกันและดูแลสุขภาพตาอย่างครบวงจร
ขึ้นอยู่กับสาเหตุ หากเกิดจากการอักเสบของตาหรือตาแห้ง สามารถรักษาให้กลับมาขาวได้ แต่หากเกิดจากโรคตับอาจต้องใช้เวลารักษานาน
หากมีอาการต่อไปนี้ควรรีบพบแพทย์ทันที เช่น ตาเหลืองร่วมกับปวดท้องรุนแรงมีไข้สูง คลื่นไส้ อาเจียนปัสสาวะสีเข้ม อุจจาระซีด
ขึ้นอยู่กับสาเหตุ หากเป็นการติดเชื้อที่ตาให้รีบพบแพทย์เพื่อรับยาและหาแนวทางการรักษา แต่หากเกิดจากภาวะตับอักเสบอาจต้องปรับพฤติกรรมและใช้ยา