- เปลือกตาอักเสบ คือภาวะอักเสบของผิวหนังบริเวณเปลือกตา มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ภาวะตาแห้ง ไรขนตา การอุดตันของต่อมไขมันที่เปลือกตา รวมถึงการใช้เครื่องสำอางบริเวณดวงตาแต่ทำความสะอาดไม่ทั่วถึง
- อาการเปลือกตาอักเสบ ได้แก่ คันเปลือกตา เจ็บเปลือกตา ตาแห้ง มีขี้ตามาก เปลือกตาหรือขอบตาบวมแดงเป็นหนอง น้ำตาไหลบ่อย รวมถึงดวงตาไวต่อแสงและแพ้แสง
- วิธีรักษาเปลือกตาอักเสบสามารถทำได้ด้วยการทำความสะอาดดวงตา ประคบอุ่น หากอาการไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษา และใช้ยาปฏิชีวนะ ยาสเตียรอยด์รักษาตามแพทย์สั่ง
- การป้องกันอาการเปลือกตาอักเสบ เริ่มจากการรักษาความสะอาดใบหน้าและดวงตา หลีกเลี่ยงการสัมผัสตาหรือขยี้ตา
อาการเปลือกตาอักเสบ เป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือว่าเด็ก อาจเริ่มจากรู้สึกตาบวม เจ็บ หรือระคายเคืองที่เปลือกตาโดยไม่แน่ใจว่าเป็นแค่อาการชั่วคราว หรือเป็นภาวะอักเสบที่ต้องได้รับการรักษาอย่างจริงจัง โดยบทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจกับเปลือกตาอักเสบ ตั้งแต่สาเหตุ อาการ ไปจนถึงวิธีป้องกัน และแนวทางการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
ทำความรู้จักกับเปลือกตาอักเสบ คืออะไร
เปลือกตาอักเสบ (Blepharitis) เป็นภาวะอักเสบของผิวหนังบริเวณเปลือกตา โดยเฉพาะของเปลือกตาซึ่งประกอบด้วยขนตา ต่อมรากขนตา (Eyelash Follicles) และต่อมไขมัน (Meibomian Gland) ส่งผลให้เกิดอาการระคายเคืองตาและความไม่สบายตาที่พบได้บ่อย ในภาวะนี้ตรวจพบได้ในเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจากจักษุแพทย์ อาจไม่แสดงอาการชัดเจนในบางราย
เปลือกตาอักเสบสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยมักเกิดกับตาทั้งสองข้าง และมีลักษณะเรื้อรัง แม้ไม่ใช่โรคติดต่อหรืออันตรายถึงขั้นตาบอด แต่ก็ส่งผลต่อชีวิตประจำวันจากอาการคันตา ตาบวม แสบตา ตาแดง ตากุ้งยิงบ่อย รวมถึงอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงถาวรที่ขอบเปลือกตา เช่น ตาแห้งเรื้อรัง ขนตางอกผิดทิศทิ่มกระจกตา ผิวกระจกตาอักเสบ หรือแผลที่กระจกตา ซึ่งอาการดังกล่าวนั้นส่งผลต่อการมองเห็นในระยะยาว

ชนิดของเปลือกตาอักเสบมีอะไรบ้าง?
เปลือกตาอักเสบแบ่งเป็น 2 ชนิดตามตำแหน่งของตา ได้แก่ เปลือกตาอักเสบส่วนหน้าและส่วนหลัง แต่มักแยกจากกันยากรวมถึงเกิดร่วมกันได้บ่อย ดังนี้
เปลือกตาอักเสบส่วนหน้า (Anterior Blepharitis)
ประกอบด้วยผิวหนังเปลือกตา โคนขนตา ต่อมรากขนตา อาการที่แสดงจะมีขี้ตาติดบนขนตาหรือมีอาการบริเวณที่ขนตาขึ้น โดยสามารถแบ่งสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการเปลือกตาอักเสบ ตาบวม ได้แก่
- เปลือกตาอักเสบชนิดที่เกิดจากเปลือกตาติดเชื้อแบคทีเรียสแตฟีโลค็อกคัส (Staphylococcal Blepharitis) เป็นชนิดที่พบบ่อยในผู้หญิงถึง 80%
- เปลือกตาอักเสบชนิดที่เป็นการอักเสบของต่อมสร้างไขมันผิวหนังเปลือกตา (Seborrheic Blepharitis)
เปลือกตาอักเสบส่วนหลัง (Posterior Blepharitis)
มักเกิดจากต่อมไขมันที่ขอบเปลือกตา (Meibomian Gland) ทำงานผิดปกติ (Meibomian Gland Dysfunction – MGD) ซึ่งหากต่อมนี้ทำงานได้น้อยลง จะทำให้น้ำตาระเหยได้เร็ว จนเกิดเป็นตาแห้ง ตาแดง เคืองตา คันตา น้ำตาไหล แต่หากใช้งานมากไปก็จะทำให้หนังตาแดง มีคราบขี้ตา หรือสะเก็ดบริเวณขนตา

สาเหตุหลักของเปลือกตาอักเสบมีอะไรบ้าง?
สาเหตุของเปลือกตาอักเสบยังไม่ทราบแน่ชัด อาจเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน ได้แก่
- โรคผื่นแพ้ต่อมไขมันที่ผิวหนัง (Seborrheic Dermatitis) สะเก็ดรังแค อาจทำให้เกิดการอักเสบระคายเคืองที่ผิวหนังบริเวณเปลือกตา
- การติดเชื้อแบคทีเรียหรือติดเชื้อราที่เปลือกตา
- การอุดตันหรือการทำงานผิดปกติของต่อมไขมันที่ขอบเปลือกตา (Meibomian Gland Dysfunction – MGD)
- โรคภูมิแพ้ รวมถึงโรคทางระบบร่างกาย เช่น โรคแพ้ภูมิตนเอง โรคต่อมไมโบเมียนทำงานผิดปกติ โรคผิวหนังอักเสบเซบเดิร์ม โรคโรซาเซีย ผู้มีภาวะหมดประจำเดือน มีการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง เป็นต้น
- ไรฝุ่นหรือไรขนตา (Demodex)
- ภาวะตาแห้ง
- การได้รับสิ่งสกปรกบริเวณเปลือกตา เช่น ฝุ่นละออง
- การเขียนขอบตา การติดขนตาปลอม การใช้เครื่องสำอางบริเวณรอบดวงตา การสักขอบเปลือกตา รวมถึงการใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ
- การได้รับยาบางชนิด เช่น ยาแก้แพ้ ยารักษาโรคซึมเศร้า ยารักษาโรคต่อมลูกหมากโต เป็นต้น

เช็กสัญญาณอาการเปลือกตาอักเสบที่ไม่ควรมองข้าม
หากมีอาการเหล่านี้บ่อยๆ อาจมีอาการของโรคเปลือกตาอักเสบ มีดังนี้
- ตาเป็นกุ้งยิง
- เปลือกตาอักเสบบวมแดงเป็นหนอง มีตุ่มสีขาวคล้ายสิว แต่ไม่มีหัว บริเวณเปลือกตาหรือขอบเปลือกตา
- คันเปลือกตาหรือเจ็บเปลือกตา รู้สึกเหมือนมีทรายหรือสิ่งแปลกปลอมอยู่ในตา
- รู้สึกปวดแสบปวดร้อนตา แสบตา มีการระคายเคืองตา ตาแดง ตาแห้ง น้ำตาไหลบ่อย
- มีขี้ตาเยอะหรือคราบสะเก็ดบริเวณขนตาหรือหัวตา มักเป็นช่วงเช้าเวลาตื่นนอน บางครั้งขนตาติดกันจนลืมตาไม่ขึ้น
- ขนตาเกหรือจับตัวกันเป็นกระจุก ขนตาร่วง และขนตาขึ้นผิดปกติ งอกแล้วงอเข้าด้านใน ทำให้ขนตาทิ่มตา
- ตาแพ้แสง ไวต่อแสง รวมถึงตาพร่ามัว แต่เมื่อกระพริบตาแล้วมักจะดีขึ้น
ภาวะแทรกซ้อนจากเปลือกตาอักเสบ
โรคเปลือกตาอักเสบอาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ โดยมีอาการดังนี้
- มีความผิดปกติของผิวหนังเปลือกตา เช่น แผลเป็นที่ขอบเปลือกตา ขอบเปลือกตาม้วนเข้าหรือม้วนออก
- เกิดการอุดตันของต่อมไขมันบริเวณขอบเปลือกตา ทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อภายในต่อมไขมันและทำให้เปลือกตาบวม แดง เจ็บ หรือตากุ้งยิง หากอาการอักเสบติดเชื้อดีขึ้น อาจทิ้งร่องรอยเป็นตุ่มนูนแข็งบริเวณเปลือกตา (Chalazion) ได้
- ตาแดงเรื้อรังจากเยื่อบุตาอักเสบ
- กระจกตาถลอกหรือเป็นแผล จากการระคายเคืองจากเปลือกตาอักเสบหรือขนตางอกผิดทิศทาง
- เพื่อความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่กระจกตา จากอาการตาแห้งหรือน้ำตาไม่เพียงพอ หากกระจกตาขุ่นจากแผลเป็นอาจทำให้การมองเห็นแย่ลงแบบถาวรได้

วิธีรักษาเปลือกตาอักเสบด้วยตัวเอง ทำอย่างไร?
อาการเปลือกตาอักเสบมีวิธีรักษาที่ง่ายและดีที่สุดคือ การรักษาความสะอาดบริเวณเปลือกตาและขอบเปลือกตา สามารถทำได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้
- หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น หยุดใช้เครื่องสำอางบริเวณตาและคอนแทคเลนส์ชั่วคราว
- ประคบอุ่น ด้วยการใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นประคบตา 10-15 นาที วันละ 1-2 ครั้ง เพื่อละลายสิ่งอุดตัน
- นวดเปลือกตา ใช้นิ้วสะอาดกรีดเบาๆ ตามแนวไขมัน เพื่อระบายสารคัดหลั่งที่อุดตัน (หลีกเลี่ยงหากมีอาการอักเสบรุนแรง)
- ทำความสะอาดตา โดยนำแชมพูเด็กผสมกับน้ำในอัตรา 1:1 ใช้สำลีเช็ดโคนขนตาเบาๆ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเฉพาะ
รักษาเปลือกตาอักเสบด้วยการใช้ยา
ในกรณีที่อาการไม่ดีขึ้นหรือรุนแรง จำเป็นต้องพบจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับการรักษาด้วยยาตามความเหมาะสมและตามสาเหตุของโรค โดยยาที่ใช้รักษาอาการเปลือกตาอักเสบจะสามารถใช้ยาอะไรบ้าง ดังนี้
- ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) อาจเป็นยาหยอดตา ขี้ผึ้งป้ายตา และหากมีการติดเชื้อต้องใช้เป็นยากิน
- ยาสเตียรอยด์ (Steroids) ช่วยลดอาการอักเสบ บวม แดง หรืออาการระคายเคือง
- ยาปรับภูมิต้านทาน (Immunomodulators) เช่น ยาหยอดตาบางชนิด เพื่อช่วยลดอาการอักเสบในบางกรณี เช่น การอักเสบของขอบเปลือกตาส่วนหลัง
- น้ำตาเทียม ช่วยลดอาการตาแห้งและการระคายเคือง
วิธีป้องกันเปลือกตาอักเสบ ทำอย่างไร?
เนื่องจากเป็นโรคเรื้อรังที่มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้ การดูแลสุขอนามัยและปรับพฤติกรรมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ดังนี้
- รักษาความสะอาดเปลือกตาด้วยการล้างหน้าและล้างมือด้วยสบู่อ่อนๆ เช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด และทำความสะอาดทุกวันด้วยผลิตภัณฑ์เฉพาะหรือน้ำอุ่น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสตา ห้ามขยี้ตา เกาเปลือกตาเพื่อลดการระคายเคือง และใช้ทิชชูสะอาดซับน้ำตาหรือยาหยอดตาส่วนเกิน
- ล้างเครื่องสำอางรอบดวงตาทุกคืน รวมถึงหมั่นเปลี่ยนเครื่องสำอางที่เกี่ยวข้องกับตาทุกๆ 3-6 เดือน
- ปรับการใช้คอนแท็กต์เลนส์ ใส่แว่นตาแทนคอนแท็กต์เลนส์ในช่วงที่มีอาการ และหมั่นทำความสะอาดคอนแท็กต์เลนส์อย่างเคร่งครัด

รักษาเปลือกตาอักเสบ ที่ศูนย์รักษากระจกตา Bangkok Eye Hospital ดีอย่างไร
หากมีอาการของโรคเปลือกตาอักเสบ สามารถเข้ามาปรึกษาและรักษาอาการตั้งแต่ระยะเริ่มต้นได้ที่ศูนย์รักษากระจกตา Bangkok Eye Hospital (โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ) ที่โดดเด่นด้านการรักษาอาการผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา ด้วยจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการ มีจุดเด่นดังนี้
- มีจักษุแพทย์ชำนาญการและมากด้วยประสบการณ์ ที่พร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับอาการผิดปกติ และแนะนำแนวทางการรักษาอย่างเหมาะสม
- เทคโนโลยีสำหรับการรักษาดวงตาสมัยใหม่ และเครื่องมือได้มาตรฐานระดับสากลครบครัน เพื่อการรักษาดวงตาอย่างปลอดภัย
- พร้อมให้การรักษา ตั้งแต่การวินิจฉัย การรักษา ไปจนถึงการติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ
- ใส่ใจในการบริการ พร้อมบรรยากาศของโรงพยาบาลที่เป็นกันเอง
สรุป
เปลือกตาอักเสบ (Blepharitis) เป็นภาวะอักเสบเรื้อรังบริเวณขอบเปลือกตา เกิดจากการทำงานผิดปกติของต่อไขมัน (Meibomian Gland) หรือการติดเชื้อแบคทีเรีย มักพบร่วมกับโรคผิวหนังเซบเดิร์ม ภูมิแพ้ หรือตาแห้ง โดยมีอาการหลัก ได้แก่ คันตา แสบตา ขนตาขึ้นผิดทิศทาง ตากุ้งยิง และไวต่อแสง ส่วนการรักษาเน้นทำความสะอาดเปลือกตาด้วยการประคบอุ่น นวดเบาๆ ในกรณีที่อาการไม่รุนแรง แต่หากอาการไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและใช้ยาปฏิชีวนะหรือสเตียรอยด์เฉพาะที่ และน้ำตาเทียม เพื่อป้องกันการกลับไปเป็นซ้ำ และสามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขอนามัยเป็นประจำและเลี่ยงการขยี้ตา
โดย Bangkok Eye Hospital โรงพยาบาลเฉพาะทางเกี่ยวกับดวงตา พร้อมให้คำปรึกษา ดูแล และรักษาเปลือกตาอักเสบ ด้วยเทคโนโลยีเครื่องมือที่ทันสมัยจากจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการ ช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างปลอดภัย และถูกต้องแม่นยำ
อ่านบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
FAQ – คำถามที่พบบ่อย
เปลือกตาอักเสบหายเองได้ไหม?
ในกรณีที่อาการไม่รุนแรง สามารถหายเองได้เมื่อดูแลสุขอนามัยอย่างเหมาะสม ทั้งการรักษาความสะอาดร่างกายและอุปกรณ์ส่วนตัวเป็นประจำ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงการเกิดเปลือกตาอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เปลือกตาอักเสบควรใช้ยาอะไร?
ก่อนใช้ยาควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ โดยสามารถใช้เป็นยาปฏิชีวนะ ยาสเตียรอยด์ ยาปรับภูมิต้านทาน และน้ำตาเทียม
เปลือกตาอักเสบต่างกับตากุ้งยิงอย่างไร?
ถึงแม้จะเกิดอาการบริเวณเปลือกตาเหมือนกันแต่มีสาเหตุต่างกัน คือเปลือกตาอักเสบเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ต่อมไขมันผิดปกติ ภูมิแพ้ ไรขนตา มีอาการบวมทั้งเปลือกตาและโคนขนตา ส่วนตากุ้งยิงเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย อาการบวมแดงเป็นหัวหนอง มีทั้งแบบในและนอกเปลือกตา