มุมสุขภาพตา : #PRK

เรียงตาม

ဆလင်ဒါရှိသူတွေအတွက် Modern LASIK: မှုန်ဝါးနေတဲ့အမြင်ကို ရှင်းလင်းပြတ်သားစေဖို့

  ဆလင်ဒါရှိသူတွေအတွက် LASIK: မှုန်ဝါးနေတဲ့အမြင်ကို ရှင်းလင်းပြတ်သားစေဖို့ Astigmatism ဆိုတာ မျက်စိမှုန်ဝါးခြင်းကို ဖြစ်စေတဲ့ အဖြစ်များတဲ့ အကြောင်းရင်းတွေထဲက တစ်ခုပါ။ ကိုယ့်မျက်မှန်ပါဝါမှာ "ဆလင်ဒါ" (Cylinder) ပါနေတဲ့သူတွေ ကြုံတွေ့ရလေ့ရှိတဲ့ ပြဿနာတစ်ခုပေါ့။ လူတော်တော်များများက LASIK လုပ်တယ်ဆိုတာ အနီးမှုန်နဲ့ အဝေးမှုန်အတွက်ပဲလို့ ထင်ကြပေမဲ့၊ တကယ်တော့ LASIK ဟာ ဆလင်ဒါကိုပါ အရမ်းကို ထိထိရောက်ရောက် ပြုပြင်ပေးနိုင်ပါတယ်။ သင်လည်း မျက်မှန်နဲ့ မျက်ကပ်မှန်တွေကိုပဲ အားကိုးနေရတယ်ဆိုရင် LASIK က သင်စောင့်မျှော်နေတဲ့ အဖြေတစ်ခု ဖြစ်လာနိုင်ပါတယ်။ ဆလင်ဒါပါဝါဆိုတာ ဘာလဲ? ဒါကို အလွယ်ပြောရရင် မျက်လုံးက ဘတ်စကတ်ဘောလုံးလို လုံးဝိုင်းမနေဘဲ ရပ်ဘီဘောလုံးလို ဘဲဥပုံရှည်ထွက်နေတာမျိုးပါ။ မျက်လုံးရဲ့အရှေ့ဘက်ခြမ်းက မျက်ကြည်လွှာ (Cornea) ရဲ့ မျက်နှာပြင်က အခုလို မညီညာတဲ့အခါ အလင်းတန်းတွေက တစ်နေရာတည်းမှာ စုစည်းမကျတော့ဘဲ နေရာအများကြီးမှာ ပြန့်ကျဲသွားစေပါတယ်။ ဒီလို မျက်ကြည်လွှာပုံသဏ္ဌာန် မညီညာတာကြောင့်ပဲ မျက်မှန်တပ်တဲ့အခါ "ဆလင်ဒါ" ပါဝါကို ထည့်သုံးရတာဖြစ်ပါတယ်။ ရလဒ်ကတော့? အနီးအဝေးအားလုံးမှာ အမြင်အာရုံက ဝါးတားတား ဒါမှမဟုတ် ပုံရိပ်တွေက ဆွဲဆန့်နေသလို ဖြစ်နေတာပါပဲ။ တချို့လူတွေမှာဆိုရင် ညဘက် မီးလုံးတွေကြည့်ရင် အလင်းတွေ ပြန့်ကားနေတာ (glare)၊ မီးရောင်ဘေးမှာ အကွင်းလိုက်ဖြစ်နေတာ (halos) ဒါမှမဟုတ် အရိပ်ထပ်သလိုမျိုး မြင်ရတာတွေ (ghost images) ဖြစ်တတ်ပါတယ်။ LASIK နဲ့ ဆလင်ဒါကို ကုသလို့ရလား? သေချာပေါက် ကုသလို့ရပါတယ်။ LASIK ကုသမှုမှာ တိကျတဲ့ လေဆာရောင်ခြည်ကိုသုံးပြီး မျက်ကြည်လွှာရဲ့ ဘဲဥပုံသဏ္ဌာန်ကို ပိုပြီးလုံးဝန်းညီညာသွားအောင် ပြန်လည်ညှိပေးလိုက်တာပါ။ ဒီလိုလုပ်လိုက်တဲ့အခါ အလင်းတန်းတွေက မြင်လွှာ (Retina) ပေါ်ကို တည့်တည့်မတ်မတ် ပြန်ကျရောက်သွားပြီး ကြည်လင်ပြတ်သားတဲ့ အမြင်အာရုံကို ပြန်ရရှိစေပါတယ်။ ခေတ်မီ LASIK နည်းပညာတွေက သင့်မျက်မှန်ပါဝါထဲက အနီး/အဝေးမှုန် ပါဝါတွေအပြင် ဆလင်ဒါ ပါဝါကိုပါ တစ်ပြိုင်နက်တည်း တိတိကျကျ ပြုပြင်ပေးနိုင်ပါတယ်။ LASIK လုပ်ပြီးရင် ဘာတွေမျှော်လင့်နိုင်မလဲ? လူနာအများစုက နာရီပိုင်းအတွင်းမှာပဲ အမြင်အာရုံ သိသိသာသာ ကြည်လင်လာတာကို သတိထားမိကြပါတယ်။ ပထမ ရက်သတ္တပတ်အနည်းငယ်မှာ မျက်လုံးအနည်းငယ်ခြောက်တာ၊ အလင်းစူးတာမျိုး ခဏတာဖြစ်နိုင်ပေမဲ့ အချိန်ကြာလာတာနဲ့အမျှ သက်သာသွားလေ့ရှိပါတယ်။ လူနာအများစုကတော့ နေ့စဉ်ဘဝမှာ၊ အားကစားလုပ်တဲ့အခါ၊ ခရီးသွားတဲ့အခါတွေမှာ မျက်မှန်နဲ့ မျက်ကပ်မှန်မလိုတော့ဘဲ လွတ်လပ်ပေါ့ပါးသွားကြပါတယ်။ 👉 ဆိုတော့ကာ . . . ဆလင်ဒါပါဝါရှိနေတာက စိုးရိမ်စရာ မဟုတ်ပါဘူး။ LASIK နဲ့ဆိုရင် ဆလင်ဒါ ကိုသာမက၊ အနီးမှုန် ဒါမှမဟုတ် အဝေးမှုန်တွေကိုပါ တစ်ခါတည်း ပြုပြင်နိုင်တဲ့အတွက် မျက်မှန်နဲ့ မျက်ကပ်မှန်ကို အမြဲတမ်းမှီခိုနေစရာမလိုဘဲ ကြည်လင်တဲ့အမြင်အာရုံကို ရေရှည်ပိုင်ဆိုင်နိုင်မှာ ဖြစ်ပါတယ်။ နေ့ရက်တိုင်းမှာ ပိုပြီး လွတ်လပ်ပေါ့ပါး ကြည်လင်ပြတ်သားစွာ မြင်တွေ့ဖို့ အဆင်သင့်ဖြစ်ပြီဆိုရင် LASER VISION LASIK CENTER, Bangkok Eye Hospital ရဲ့ Refractive Surgery Specialist တွေနဲ့ လာရောက်ဆွေးနွေးတိုင်ပင်လိုက်ပါ။ ပိုကောင်းတဲ့ အမြင်အာရုံအတွက် ပထမဆုံးခြေလှမ်းက ရက်ချိန်းရယူလိုက်ရုံပါပဲ။
อ่านเพิ่มเติม
ศูนย์เลสิก LASER VISION

สายตาสั้นมีกี่ระดับ? รู้ทันสาเหตุ อาการ พร้อมวิธีรักษาและป้องกัน!

‘สายตาสั้น’เป็นปัญหาทางสายตาที่หลายคนอาจพบเจอ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุเพิ่มขึ้น และหลายคนอาจจะยังสับสนอยู่ว่ามองไกลไม่ชัดสายตาสั้นหรือยาว? สายตาสั้นไม่ได้มีแค่ระดับเดียว แต่มีหลายระดับที่ส่งผลต่อการมองเห็นแตกต่างกันไป และไม่เพียงแค่ทำให้มองเห็นวัตถุในระยะไกลไม่ชัดเจนเท่านั้น แต่ในบางกรณีอาจส่งผลให้มองแทบไม่เห็นในที่สว่างหรือที่มีแสงจ้า บทความนี้จะพาไปเช็กระดับของสายตาสั้น วิธีสังเกตอาการแบบง่ายๆ พร้อมแนะนำแนวทางรักษาและป้องกันไม่ให้สายตาแย่ลง สายตาสั้นคือการที่แสงไม่โฟกัสที่จอประสาทตา แต่ไปตกที่ด้านหน้าของจอ ทำให้มองเห็นภาพไกลไม่ชัดเจน โดยมีปัจจัยต่างๆ เช่น ลูกตามีความยาวเกินไป กระจกตาหรือเลนส์โค้งมากเกินไป พันธุกรรม สิ่งแวดล้อม อายุ และการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย รวมถึงปัจจัยทางการแพทย์ การเช็กระดับสายตาสั้นแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับเบา (Dioptre -0.25 ถึง -3.00) มักไม่รุนแรง ระดับปานกลาง (Dioptre -3.00 ถึง -6.00) ต้องการแว่นตาหรือคอนแท็กต์เลนส์ และระดับรุนแรง (Dioptre > -6.00) ซึ่งอาจต้องใช้แว่นตาความหนาสูงหรือพิจารณาผ่าตัด การรักษาสายตาสั้นมี 3 วิธีหลักๆ คือการใส่แว่นตาช่วยปรับแสงให้โฟกัสที่จอประสาทตา การใช้คอนแท็กต์เลนส์ที่สะดวก และการทำเลสิกที่สามารถแก้ไขปัญหาสายตาสั้นอย่างถาวร ที่มีการปรับรูปทรงของกระจกตาด้วยเลเซอร์     สายตาสั้นเกิดจากอะไร? ปัจจัยที่ทำให้เกิดสายตาสั้น สายตาสั้น (Myopia) เกิดขึ้นเมื่อแสงที่ผ่านเข้ามาในดวงตาของเรามีการโฟกัสผิดที่ ไม่ว่าจะเกิดสายตาสั้นข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง โดยปกติแล้ว เมื่อแสงผ่านกระจกตา (Cornea) และเลนส์ตา (Lens) จะต้องโฟกัสไปที่จอประสาทตา (Retina) เพื่อให้เราเห็นภาพที่ชัดเจน แต่ในกรณีของผู้ที่มีสายตาสั้น แสงจะไม่ได้ตกลงบนจอประสาทตาโดยตรง แต่จะตกไปที่ด้านหน้าของจอประสาทตา ทำให้ภาพที่เราเห็นในระยะไกลไม่ชัดเจนหรือเห็นภาพเบลอ โดยสาเหตุที่ทำให้สายตาสั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ดังนี้ 1. ลูกตามีความยาวมากเกินไป สาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดของสายตาสั้นคือลูกตายาวเกินไป จากด้านหน้าไปด้านหลัง (จากกระจกตาถึงจอประสาทตา) เมื่อขนาดของลูกตามีความยาวมากเกินไป การโฟกัสของแสงจะเกิดขึ้นก่อนที่จอประสาทตา ทำให้เกิดภาพเบลอในระยะไกล เพราะแสงไม่ได้โฟกัสตรงจุดที่จอประสาทตา (Retina) ซึ่งควรจะเป็นจุดที่แสงรวมตัวกันเพื่อให้เห็นภาพที่คมชัด 2. กระจกตาหรือเลนส์ตาโค้งมากเกินไป ในบางกรณีกระจกตาหรือเลนส์ตาของผู้ที่มีสายตาสั้นจะโค้งมากเกินไป ซึ่งทำให้แสงหักเหมากเกินไปและไม่สามารถโฟกัสที่จอประสาทตาได้เช่นกัน การหักเหที่มากเกินไปทำให้แสงไปตกที่ด้านหน้าของจอประสาทตา ทำให้ภาพไม่ชัดเจนเมื่อมองในระยะไกล 3. พันธุกรรม สายตาสั้นสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ หากมีสมาชิกในครอบครัวที่มีสายตาสั้น โอกาสที่ลูกหลานจะมีสายตาสั้นก็จะสูงขึ้น โดยเฉพาะถ้าพ่อแม่สายตาสั้นทั้งสองคนหรือมีอาการสายตาสั้นในระดับรุนแรง 4. ปัจจัยสิ่งแวดล้อม ปัจจัยสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้สายตาในระยะใกล้เป็นเวลานานๆ อาจทำให้สายตาสั้นได้ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่มีการใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัล เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ หรือการอ่านหนังสือในระยะใกล้เป็นเวลานาน อาจทำให้กล้ามเนื้อที่ควบคุมการโฟกัสของตาเกิดความเครียด จนทำให้การหักเหของแสงผิดปกติได้ 5. อายุและการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย แม้ว่าสายตาสั้นมักจะเริ่มต้นในช่วงวัยเด็กหรือวัยรุ่น แต่ในบางกรณีสามารถเกิดขึ้นในวัยผู้ใหญ่ได้เช่นกัน การเปลี่ยนแปลงในกระบวนการพัฒนาและการเจริญเติบโตของดวงตาอาจมีส่วนทำให้เกิดสายตาสั้นขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากการเจริญเติบโตของกระจกตาหรือความยาวของลูกตาที่เพิ่มขึ้น 6. ปัจจัยทางการแพทย์บางประการ บางครั้งการมีปัญหาทางสุขภาพหรือได้รับบาดเจ็บที่ดวงตา อาจทำให้เกิดอาการสายตาสั้นได้ เช่น การผ่าตัดตาหรือการได้รับแสง ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างตา สังเกตอาการเริ่มต้นของสายตาสั้น ที่ไม่ควรมองข้าม สายตาสั้นมีอาการเริ่มต้นที่สังเกตได้จากการมองเห็นไม่ชัดเจนในระยะไกล และบางครั้งอาจจะรู้สึกว่ามองไม่เห็นสิ่งต่างๆ ที่อยู่ไกลออกไปได้ดีเหมือนเมื่อก่อน อาจจะเริ่มเห็นภาพเบลอเมื่อมอง ต้องเพ่งสายตาเมื่อมองสิ่งที่อยู่ไกลออกไปหรืออาจจะรู้สึกปวดตาเมื่อต้องเพ่งสายตามากๆ เมื่อเกิดอาการสายตาสั้น ภาพที่เห็นจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน เช่น การไม่สามารถอ่านป้ายถนนหรือเลขทะเบียนรถได้ชัดเจนจากระยะไกล ซึ่งมักเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าอาจเริ่มมีปัญหาสายตาสั้น การมองเห็นภาพที่ไม่ชัดเจนในระยะไกลเป็นหนึ่งในอาการที่สามารถสังเกตได้ง่าย และมักเป็นจุดเริ่มต้นของการมีสายตาสั้นที่หลายคนมักจะพบในระยะแรก     เช็กระดับสายตาสั้น รู้ทันความรุนแรงของอาการ การเช็กระดับสายตาสั้นคือการประเมินว่าความผิดปกติในสายตาของเรานั้นรุนแรงเพียงใด ซึ่งช่วยให้รู้ว่าอาการอยู่ในระดับไหน สายตาสั้นค่าลบหรือค่าบวก และควรรักษาหรือปรับปรุงการดูแลอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาสายตาลุกลามมากขึ้น สายตาสั้นมีกี่ระดับ? สามารถแบ่งระดับความรุนแรงออกเป็น 3 ระดับได้ ดังนี้ ระดับเบา (Mild Myopia) สายตาสั้นระดับเบาจะมีค่า Dioptre -0.25 ถึง -3.00 Dioptre ในระดับนี้มักไม่รุนแรงมาก สามารถมองเห็นในระยะใกล้ได้ชัดเจน แต่จะมีปัญหาบ้างในการมองเห็นในระยะไกล เช่น การอ่านป้ายถนนหรือเลขทะเบียนรถจากระยะไกล อาจไม่จำเป็นต้องรักษาทันที แต่แนะนำให้ตรวจสายตาประจำปีเพื่อดูความเปลี่ยนแปลง ระดับปานกลาง (Moderate Myopia) สายตาสั้นระดับปานกลางจะมีค่า Dioptre -3.00 ถึง -6.00 Dioptre ในระดับนี้มีปัญหาการมองเห็นในระยะไกลชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะในสภาพแสงน้อยหรือระหว่างการขับขี่ที่ต้องการแว่นตาหรือคอนแท็กต์เลนส์เพื่อช่วยในการมองเห็นในระยะไกล อาจพิจารณาการรักษาด้วยการผ่าตัดเลสิกถ้าจำเป็น ระดับรุนแรง (Degenerative Myopia) สายตาสั้นระดับรุนแรงมีค่า Dioptre มากกว่า -6.00 Dioptre อาการในระดับนี้จะมีปัญหามากขึ้นในการมองเห็นระยะไกล อาจมองเห็นภาพเบลอทั้งในระยะไกลและใกล้ ได้รับผลกระทบในการใช้ชีวิตประจำวัน จำเป็นต้องใช้แว่นตาหรือคอนแท็กต์เลนส์ที่มีค่าสายตาสูง ในบางกรณีอาจต้องพิจารณาผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาสายตาสั้นด้วย ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากมีปัญหาสายตาสั้น อาการสายตาสั้น นอกจากจะส่งผลกระทบต่อการมองเห็นในระยะไกลแล้ว ยังมีผลกระทบต่อหลายๆ ด้านในชีวิตประจำวัน ซึ่งอาจสร้างความลำบากหรือความไม่สะดวกในการทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียน หรือการใช้ชีวิตในกิจกรรมประจำวัน หากไม่ได้รับการรักษาหรือการดูแลที่เหมาะสม สายตาสั้นอาจส่งผลกระทบในหลายด้าน ดังนี้ การขับรถยนต์และการเดินทางสายตาสั้นทำให้ไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ไกลๆ ชัดเจน เช่น ป้ายจราจร ทำให้ขับขี่ไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะในเวลากลางคืน การเรียนและการทำงานที่ต้องใช้สายตาระยะไกลนักเรียนและผู้ทำงานที่ต้องดูสิ่งที่อยู่ไกล เช่น กระดานหรือจอคอมพิวเตอร์ จะมองเห็นไม่ชัด ทำให้ไม่สะดวกในการทำงาน ความเครียดและปวดตาการเพ่งสายตาหรือมองสิ่งเบลอเป็นเวลานานทำให้เกิดความเครียดและปวดตา ซึ่งส่งผลให้รู้สึกไม่สบายได้ การทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือกีฬาการมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ไกลๆ เช่น ลูกบอลในกีฬา อาจทำให้เล่นกีฬาได้ไม่ดี หรือเกิดอุบัติเหตุได้ ผลกระทบทางจิตใจและความมั่นใจคนที่มีสายตาสั้นอาจรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองเมื่อไม่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ในระยะไกลได้ชัดเจน ปัญหาในการทำกิจวัตรประจำวันกิจวัตรประจำวัน เช่น การขับรถหรือดูโทรทัศน์ จะรู้สึกว่าทำอะไรก็ไม่สะดวก เพราะมองสิ่งต่างๆ ได้ไม่ชัดเจน ผลกระทบจากการไม่รักษาหากไม่รักษาสายตาสั้นอาจทำให้ภาวะสายตาแย่ลงเรื่อยๆ และเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางตาอื่นๆ ในอนาคต     แนวทางการรักษาสายตาสั้น การรักษาสายตาสั้นสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการและความสะดวกในการใช้ชีวิตของแต่ละคน โดยหลักๆ แล้วมี 3 วิธีในการรักษาสายตาสั้นที่ได้รับความนิยม ดังนี้ 1. การใส่แว่นตา แว่นตาเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและสะดวกที่สุดในการแก้ไขปัญหาสายตาสั้น แว่นตาจะช่วยปรับให้แสงโฟกัสตรงจอประสาทตา โดยแว่นตาจะทำหน้าที่ช่วยให้ผู้ที่มีสายตาสั้นสามารถมองเห็นวัตถุที่อยู่ไกลได้ชัดเจนขึ้น วิธีนี้เป็นวิธีที่ปลอดภัยและไม่เจ็บปวด เหมาะสำหรับผู้ที่มีสายตาสั้นในระดับที่ไม่รุนแรงมาก หรือผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด 2. การใส่คอนแท็กต์เลนส์ คอนแท็กต์เลนส์เป็นตัวเลือกที่นิยมในหมู่คนที่ไม่ต้องการใส่แว่นตา หรือไม่ชอบให้มีกรอบแว่นบนใบหน้า คอนแท็กต์เลนส์จะทำหน้าที่เหมือนแว่นตา ช่วยปรับการโฟกัสแสงให้ถูกต้อง ทำให้ผู้ที่มีสายตาสั้นสามารถมองเห็นได้ชัดเจน แต่ข้อดีของคอนแท็กต์เลนส์คือจะไม่มีกรอบแว่นมาขวางทางการมองเห็น และสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้สะดวกมากขึ้น เช่น การเล่นกีฬา หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง 3. การผ่าตัดเลเซอร์ (LASIK) การรักษาสายตาสั้นด้วยเลสิกเป็นวิธีที่ช่วยรักษาสายตาสั้นอย่างถาวร โดยการใช้เลเซอร์ปรับรูปทรงของกระจกตา เพื่อให้แสงที่เข้าสู่ตาตกลงบนจอประสาทตาอย่างถูกต้อง วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีสายตาสั้นในระดับสูง หรือผู้ที่ไม่ต้องการใช้แว่นตาและคอนแท็กต์เลนส์อีกต่อไป   การทำเลสิกเป็นวิธีที่มีความปลอดภัยและสามารถช่วยแก้ปัญหาสายตาสั้นได้อย่างถาวร แต่ก็ต้องได้รับการประเมินจากแพทย์ก่อนว่าเหมาะสมกับการทำผ่าตัดวิธีไหน หรือเหมาะกับการผ่าตัดหรือไม่ รวม 7 วิธีง่ายๆ ที่ช่วยป้องกันสายตาสั้น ป้องกันสายตาสั้นได้โดยการดูแลและปฏิบัติตามวิธีต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสื่อมสภาพของสายตาและลดความเสี่ยงสายตาสั้น ดังนี้ หากต้องใช้สายตานานๆ เช่น อ่านหนังสือหรือใช้คอมพิวเตอร์ ควรพักสายตาทุก 20 - 30 นาที โดยมองห่างจากจอหรือหนังสือประมาณ 20 ฟุต (6 เมตร) เป็นเวลา 20 วินาที เพื่อให้กล้ามเนื้อตาต้องการพักผ่อนและไม่เกิดความเครียด ควรจัดแสงในพื้นที่ทำงานหรือการเรียนให้เหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงการเพ่งสายตาในสภาพแสงที่ไม่เพียงพอหรือจ้ามากเกินไป ซึ่งจะช่วยให้สายตามีความสะดวกในการทำงาน ควรตั้งระยะห่างจากจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือให้ห่างจากตาประมาณ 40 - 50 เซนติเมตร และไม่ควรมองหน้าจอจากระยะใกล้เกินไป เพราะอาจทำให้เกิดความเครียดกับดวงตา การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอช่วยให้ดวงตาได้พักและฟื้นฟูจากการใช้งานหนัก รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพตา โดยเฉพาะอาหารที่มีวิตามิน A, C, E และแร่ธาตุอื่นๆ เช่น ผักใบเขียวและผลไม้สด เพื่อช่วยเสริมสร้างสุขภาพตาและป้องกันการเกิดปัญหาทางสายตา ควรตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ ไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพตา เพราะหากพบว่าเป็นสายตาสั้นในระยะแรก จะช่วยให้รักษาได้ทันเวลาและป้องกันไม่ให้สายตาแย่ลง หลีกเลี่ยงใช้สายตานานๆ หรือมองสิ่งต่างๆ ในระยะใกล้เป็นเวลานาน เช่น การอ่านหนังสือหรือใช้โทรศัพท์มือถือ ควรพักสายตาหรือเปลี่ยนกิจกรรมบ้างเพื่อไม่ให้เกิดความเครียดต่อดวงตา     รักษาสายตาสั้น ที่ศูนย์รักษาตา Bangkok Eye Hospital ดีอย่างไร ศูนย์รักษาตา Bangkok Eye Hospital บริการตรวจวินิจฉัยด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและผู้ชำนาญการ ที่พร้อมให้คำแนะนำและการรักษาสายตาสั้นในรูปแบบต่างๆ ผู้มีประสบการณ์ด้านการดูแลดวงตาเฉพาะทาง ให้บริการครอบคลุมทุกโรคเกี่ยวกับดวงตา การตรวจสุขภาพตาโดยรวม ตรวจสอบสุขภาพของดวงตาและหาความผิดปกติอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อการมองเห็น การตรวจวัดค่าสายตา (Refraction Test) โดยประเมินค่าสายตาเพื่อหาค่าความผิดปกติและกำหนดค่าสายตาที่เหมาะสม ใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยในการรักษา สรุป สายตาสั้นเกิดจากการที่แสงโฟกัสผิดที่ในดวงตาทำให้มองเห็นภาพไกลไม่ชัดเจน ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดสายตาสั้น ได้แก่ ลูกตามีความยาวเกินไป กระจกตาหรือเลนส์ตาโค้งมากเกินไป และพันธุกรรม สาเหตุอื่นๆ อย่างปัจจัยสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้สายตาใกล้เป็นเวลานาน และการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ที่เกิดขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้น หากมีอาการสายตาสั้นควรเช็กระดับความรุนแรงเพื่อเลือกวิธีรักษา เช่น การใส่แว่นตา คอนแท็กต์เลนส์ หรือการผ่าตัดเลเซอร์ (LASIK) นอกจากนี้ การป้องกันสายตาสั้นสามารถทำได้โดยการพักสายตาอย่างเหมาะสม การออกกำลังกาย และการตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ ก็สามารถป้องกันสายตาสั้นได้ด้วย หากต้องการรักษาสายตาสั้น ที่ศูนย์รักษาตาBangkok Eye Hospital (โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ)มีความมุ่งมั่นในการให้บริการด้วยเทคโนโลยีทันสมัยโดยผู้มีประสบการณ์ในการรักษาสายตาสั้น พร้อมดูแลหลังการรักษาอย่างมีคุณภาพ รวมถึงให้คำแนะนำที่เหมาะสมและติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง อ่านบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เลสิกสายตาสั้น บอกลาปัญหามองเห็นไม่ชัด พร้อมการเตรียมตัวก่อนทำ การตรวจตาก่อนทำเลสิกคืออะไร ทำไมต้องตรวจถึง 3 ชั่วโมง?!! ทำเลสิกที่ไหนดี? เปรียบเทียบเทคนิคและเกณฑ์การเลือกโรงพยาบาล FAQ – คำถามที่พบบ่อย สายตาสั้น มีกี่ระดับ? สายตาสั้นแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับเบา (Dioptre -0.25 ถึง -3.00) ระดับปานกลาง (Dioptre -3.00 ถึง -6.00) และระดับรุนแรง (Dioptre มากกว่า -6.00) การมองเห็นในระยะไกลจะยิ่งเบลอเมื่อระดับสายตาสั้นสูงขึ้น ระดับสายตาสั้นเท่าไรถึงจะอันตราย? สายตาสั้นที่มีค่า Dioptre มากกว่า -6.00 อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสายตาอื่นๆ และอาจต้องการการรักษาเพิ่มเติม สายตาสั้นแก้อย่างไร? สายตาสั้นแก้ได้ด้วยการใส่แว่นตา คอนแท็กต์เลนส์ หรือการทำเลสิก เพื่อปรับรูปทรงของกระจกตาให้แสงโฟกัสที่จอประสาทตา สายตาสั้นไม่ใส่แว่น อันตรายหรือไม่? สามารถไม่ใส่แว่นได้ แต่อาจทำให้มองเห็นในระยะไกลไม่ชัดเจน และอาจเสี่ยงต่ออุบัติเหตุหรือความผิดปกติของสายตาในระยะยาว
ศูนย์เลสิก LASER VISION

สายตายาวเกิดจากอะไร? รู้ทันสาเหตุและวิธีแก้ไขง่ายๆ ที่ได้ผลชัวร์

สายตายาวคือการที่กระจกตาหรือเลนส์ตาไม่สามารถโฟกัสแสงที่ให้ตรงจุดที่จอตา ทำให้มองเห็นวัตถุใกล้ไม่ชัด มักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของกระจกตาหรือเลนส์ตาเมื่ออายุเพิ่มขึ้น หรืออาจเป็นผลจากกรรมพันธุ์ การรักษาสายตายาวสามารถทำได้โดยการใส่แว่นตาหรือคอนแท็กต์เลนส์ที่เหมาะสมเพื่อช่วยโฟกัสแสงให้ถูกต้อง หรือเลือกทำการผ่าตัดเลสิกสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการใส่แว่นตา รวมถึงการดูแลสุขภาพตาและพักสายตาก็เป็นสิ่งสำคัญ การป้องกันสายตายาวสามารถทำได้โดยการพักสายตาทุก 20 นาที เมื่อใช้สายตานานๆ รักษาระยะห่างจากหน้าจอให้เหมาะสม และตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ นอกจากนี้การรับประทานอาหารที่มีสารบำรุงสายตาก็ช่วยป้องกันได้ รู้ไหมว่าสายตายาวเป็นปัญหาที่หลายคนอาจจะไม่ทันสังเกต โดยทั่วไปแล้วสายตายาวเกิดจากการใช้สายตามากเกินไป หรืออาจเกิดจากความผิดปกติในดวงตาที่ทำให้การโฟกัสแสงที่กระทบตาผิดปกติ ส่งผลให้มองเห็นสิ่งใกล้ตัวไม่ชัดเจน  ปัญหานี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เมื่อเกิดแล้วสามารถรักษาและแก้ไขได้ด้วยวิธีที่หลากหลาย ทั้งการปรับพฤติกรรมหรือการรักษาทางการแพทย์ ลองมาทำความเข้าใจสาเหตุ วิธีป้องกัน และวิธีแก้ไขที่ได้ผลชัวร์ไปพร้อมกันในบทความนี้   รู้ทันสาเหตุ สายตายาวเกิดจากอะไร? สายตายาว (Hyperopia) เกิดจากความผิดปกติในการโฟกัสแสงที่กระทบตา ซึ่งเป็นปัญหาที่ทำให้มองเห็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวไม่ชัดเจน แต่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ไกลได้ชัดเจน สาเหตุหลักของปัญหานี้มาจากการที่แสงที่กระทบตาไม่ได้โฟกัสตรงจุดกระทบของจอตา (Retina) แต่จะไปกระทบที่หลังจอตาแทน ซึ่งเกิดจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้ รูปทรงของลูกตา ถ้าลูกตายาวเกินไปหรือมีลักษณะเป็นทรงกลมเกินไป แสงที่ผ่านเข้ามาจะไม่โฟกัสตรงที่จอตาแต่จะกระทบหลังจอตา ทำให้มองเห็นสิ่งใกล้ตัวไม่ชัดเจน ความผิดปกติของกระจกตา (Cornea) หากกระจกตามีความโค้งที่ไม่เหมาะสม เช่น โค้งน้อยเกินไป แสงที่เข้ามาจะไม่ได้โฟกัสที่จอตาอย่างถูกต้อง ทำให้เกิดปัญหาการมองเห็น ปัญหาของเลนส์ในตา (Lens) ถ้าเลนส์ในตายืดหยุ่นน้อยหรือมีความผิดปกติในการปรับโฟกัส ก็สามารถทำให้แสงไม่สามารถรวมตัวที่จอตาได้ จึงทำให้มองเห็นสิ่งที่ใกล้ตัวไม่ชัด โดยทั่วไปแล้วสาเหตุของสายตายาวอาจเกิดจากกรรมพันธุ์หรืออาจเกิดขึ้นจากการใช้สายตาใกล้มากเกินไปในช่วงเวลานานๆ ซึ่งสามารถทำให้เกิดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อตาได้ ทั้งหมดนี้สามารถรักษาหรือปรับแก้ได้ผ่านวิธีการต่างๆ เช่น การใส่แว่นตาหรือการทำเลเซอร์ตา เป็นต้น สังเกตอาการสายตาเป็นอย่างไร อาการของสายตายาวหรือที่บางคนเรียกกันว่าตาไกลมักจะมีอาการ ดังนี้ มองใกล้ไม่ชัด หากต้องอ่านหนังสือ หรือมองสิ่งของที่อยู่ใกล้ๆ จะรู้สึกไม่ชัดเจนและอาจเกิดอาการตาล้าหรือปวดตาได้ ต้องเพ่งหรือหลับตา เพื่อให้ภาพที่มองอยู่ชัดขึ้น อาจจะต้องเพ่งหรือหลับตาเล็กน้อย ปวดตาหรือปวดหัว เมื่อพยายามเพ่งมองหรือใช้สายตามากๆ อาจทำให้เกิดอาการปวดตาหรือปวดหัว มองไกลชัด คนที่มีอาการสายตายาวจะมองสิ่งที่อยู่ไกลได้ชัดเจน แต่จะมีปัญหาเมื่อมองสิ่งที่อยู่ใกล้   หากมีอาการเหล่านี้ ควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อทำการตรวจสายตาและรับการรักษา     แนวทางการรักษาสายตายาว การรักษาและวิธีแก้ไขสายตายาวมีหลายวิธีที่สามารถช่วยให้ผู้ที่มีปัญหานี้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาและความสะดวกของผู้ที่ต้องการรักษา โดยสายตายาวมีวิธีแก้ ดังนี้ การใส่แว่นตา แว่นตาสำหรับสายตายาวเป็นวิธีรักษาสายตายาวด้วยวิธีธรรมชาติ ที่ง่ายและปลอดภัยที่สุดในการช่วยปรับการโฟกัสแสงให้เข้าสู่จอตาอย่างถูกต้อง แว่นตาจะช่วยปรับแสงที่เข้าสู่ดวงตาให้โฟกัสได้ตรงจุดทำให้มองเห็นสิ่งที่อยู่ใกล้ได้ชัดเจนขึ้น การเลือกแว่นตาควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อวัดค่าสายตาและเลือกแว่นที่เหมาะสมกับสภาพดวงตาของเรา การใช้คอนแท็กต์เลนส์ อีกหนึ่งวิธีแก้สายตายาวคือการใส่คอนแท็กต์เลนส์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ชอบใส่แว่นตา โดยจะทำงานคล้ายกับแว่นตาในการปรับการโฟกัสแสงให้เข้าสู่จอตา แต่จะใส่ติดกับตาเลย ช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนโดยไม่ต้องมีกรอบแว่น การทำเลเซอร์ (LASIK) เลสิก (Lasik) เป็นการผ่าตัดเลเซอร์ที่ใช้ในการปรับรูปร่างของกระจกตาเพื่อปรับการโฟกัสแสงให้เกิดการมุ่งตรงไปที่จอตาแทนการกระทบหลังจอตา ซึ่งจะช่วยให้การมองเห็นดีขึ้น การทำเลสิกเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการพึ่งพาแว่นตาหรือคอนแท็กต์เลนส์ แต่ควรปรึกษาจักษุแพทย์ก่อนการทำการรักษาเพื่อตรวจสอบความเหมาะสม การเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม REL การเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม หรือ Refractive Lens Exchange (RLE) ถือเป็นทางเลือกใหม่ในการรักษาสายตายาวตามอายุ RLE ที่เกิดขึ้นกับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป  Femto RLE (การแก้ไขปัญหาสายตายาวแบบไร้ใบมีด) เทคโนโลยีการผ่าตัดที่ใช้เลเซอร์ Femtosecond ในการทำหัตถการ ไม่ต้องใช้ใบมีดในการผ่าตัด ทำให้ปลอดภัยมากขึ้น ให้ความแม่นยำสูงในการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ การรักษาด้วยวิธีการเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม (RLE) เป็นการรักษาภาวะสายตายาวตามอายุที่เน้นการแก้ไขปัญหาบริเวณเลนส์แก้วตา โดยแพทย์จะทำการเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเดิมที่เริ่มเสื่อมสภาพออกไป แล้วใส่เลนส์แก้วตาเทียมเข้ามาแทนที่ RLE เป็นวิธีการรักษาสายตายาวตามอายุ (Presbyopia) ที่เกิดขึ้นในผู้ที่อายุ 40 ปีขึ้นไป แพทย์จะทำการเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเดิมที่เริ่มเสื่อมสภาพออกไป แล้วใส่เลนส์แก้วตาเทียมเข้ามาแทนที่ RLE เลนส์แก้วตาเทียมที่ออกแบบมาสำหรับการรักษาสายตายาวตามอายุโดยเฉพาะ RLE แตกต่างจาก LASIK ที่เน้นปรับเปลี่ยนรูปร่างกระจกตา RLE เน้นการเปลี่ยนเลนส์โดยตรง ช่วยแก้ปัญหาการมองเห็นที่ต้องยื่นหนังสือให้ไกลจากตัวเองจึงจะเห็น   การปรับพฤติกรรมการใช้สายตา หากต้องใช้สายตาจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือเป็นเวลานาน ควรพักสายตาทุก 20 นาที โดยการมองไปที่จุดไกลๆ 20 ฟุต ประมาณ 20 วินาที รวมทั้งการใช้แสงสว่างที่เหมาะสมควรใช้งานในที่มีแสงสว่างเพียงพอ เพื่อไม่ให้ดวงตาต้องทำงานหนักเกินไป และการรักษาท่าทางการนั่งที่ถูกต้อง ให้มีระยะห่างที่เหมาะสมจากหน้าจอคอมพิวเตอร์จะช่วยลดความตึงเครียดของดวงตา การรักษาด้วยยาหรือการผ่าตัดเล็ก (ในกรณีเฉพาะ) บางกรณีอาจต้องใช้ยาเฉพาะหรือผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาสายตายาว หากมีความผิดปกติอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการมองเห็น การตรวจสุขภาพตาอย่างสม่ำเสมอ การตรวจสุขภาพตาเป็นประจำทุกปีเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการตรวจพบปัญหาสายตายาวแต่เนิ่นๆ และป้องกันการเกิดปัญหาที่รุนแรงในอนาคต   การรักษาสายตายาวสามารถช่วยให้ผู้ที่มีปัญหานี้สามารถมองเห็นได้ดีขึ้น แต่การเลือกวิธีรักษาขึ้นอยู่กับความต้องการและสถานการณ์ของแต่ละคน ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อหาวิธีที่เหมาะสมที่สุด     7 วิธีป้องกันสายตายาว ทำได้ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน การป้องกันการเกิดสายตายาวสามารถทำได้โดยการดูแลตาและปรับพฤติกรรมการใช้สายตา ดังนี้ การพักสายตาโดยใช้หลัก 20-20-20 ทุก 20 นาที มองไปที่จุดไกล 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที เพื่อลดความเครียดที่ดวงตา การรักษาระยะห่างที่เหมาะสมจากหน้าจอประมาณ 20-30 นิ้ว และปรับความสูงให้เหมาะสม การปรับแสงสว่างที่เพียงพอ ไม่ให้แสงสะท้อนตรงตา เพื่อให้ตาทำงานน้อยลง การตรวจสุขภาพตาเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอเพื่อพบปัญหาและรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รับประทานอาหารที่มีวิตามิน A, C, E และสารอาหารบำรุงสายตา เช่น ผักใบเขียว แครอท และผลไม้ การใส่แว่นตาหรือคอนแท็กต์เลนส์ที่แพทย์แนะนำหากมีปัญหาสายตา เพื่อลดความเครียดที่ดวงตา การหลีกเลี่ยงการใช้งานที่ทำให้ตาเครียด หลีกเลี่ยงการใช้สายตานานๆ โดยไม่พัก หากใช้สายตานาน ควรหยุดพักและเปลี่ยนกิจกรรมบ้าง รักษาสายตายาว ที่ศูนย์รักษาตา Bangkok Eye Hospital ดีอย่างไร Bangkok Eye Hospital ให้บริการตรวจวินิจฉัยและรักษาสายตายาวด้วยเทคโนโลยีและเครื่องมือทันสมัย โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ พร้อมทั้งการประเมินสภาพดวงตาอย่างละเอียดและการแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล การตรวจสุขภาพตาและวินิจฉัยสายตายาว โดยใช้เทคโนโลยีล่าสุดในการตรวจสภาพตาและค่าสายตาเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง การปรับการมองเห็นด้วยแว่นตาหรือคอนแท็กต์เลนส์ โดยแนะนำการใช้แว่นตาหรือคอนแท็กต์เลนส์ที่เหมาะสมกับสภาพดวงตา การผ่าตัดเลเซอร์ LASIK สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการพึ่งพาแว่นตาหรือคอนแท็กต์เลนส์ เรามีบริการผ่าตัด ทำเลสิกที่ช่วยปรับการโฟกัสแสงให้ตรงจุด การติดตามผลและการรักษาระยะยาว หลังการรักษา เรามีการติดตามผลและให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพตาอย่างต่อเนื่อง สรุป สายตายาวเกิดจากการที่แสงไม่สามารถโฟกัสที่จอตาอย่างถูกต้อง ซึ่งทำให้มองเห็นสิ่งใกล้ไม่ชัดเจน สาเหตุหลักมาจากความผิดปกติในกระจกตาหรือเลนส์ตา เช่น กระจกตาที่โค้งน้อยเกินไป หรือการยืดหยุ่นของเลนส์ที่ลดลงตามอายุ การรักษาสายตายาวสามารถทำได้ด้วยการใส่แว่นตาหรือคอนแท็กต์เลนส์ หรือการทำเลเซอร์ เลสิกเพื่อปรับการโฟกัสแสงให้ถูกต้อง   นอกจากนี้ยังควรพักสายตาและตรวจสุขภาพตาเป็นประจำเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น หากมีภาวะสายตายาว Bangkok Eye Hospital (โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ) ให้บริการตรวจวินิจฉัยและรักษาสายตายาวด้วยการใช้เทคโนโลยีทันสมัยในการตรวจวินิจฉัยและรักษาสายตายาว โดยผู้ชำนาญการ พร้อมการให้คำแนะนำการรักษาที่เหมาะสม โดยมีบริการผ่าตัด LASIK และการปรับการมองเห็นด้วยแว่นตาหรือคอนแท็กต์เลนส์ รวมถึงการติดตามผลหลังการรักษา อ่านบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทำเลสิกที่ไหนดี? เปรียบเทียบเทคนิคและเกณฑ์การเลือกโรงพยาบาล  เลสิกสายตาเอียง แก้ไขปัญหาภาพเบลอ ภาพไม่ชัด กับข้อควรรู้ก่อนทำ เลสิกสายตาสั้น บอกลาปัญหามองเห็นไม่ชัด พร้อมการเตรียมตัวก่อนทำ FAQ – คำถามที่พบบ่อย เริ่มสายตายาวที่อายุเท่าไร? สายตายาวมักเริ่มเกิดขึ้นเมื่ออายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป เนื่องจากเลนส์ตาเริ่มเสื่อมและยืดหยุ่นน้อยลง ทำให้การโฟกัสสิ่งใกล้ไม่ชัดเจน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของกระบวนการชราภาพตา ค่าสายตายาววัดได้ระดับ ค่าสายตายาวมี 3 ระดับหลัก ได้แก่ ระดับเบา (ต่ำกว่า +2.00 Diopter) ระดับปานกลาง (ระหว่าง +2.00 ถึง +4.00 Diopter) และระดับรุนแรง (สูงกว่า +4.00 Diopter) ซึ่งแต่ละระดับจะมีผลกระทบต่อการมองเห็นที่แตกต่างกัน และจำเป็นต้องเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม สายตายาวเท่าไรควรใส่แว่น ควรใส่แว่นเมื่อมีสายตายาวประมาณ +0.5 Diopter ขึ้นไป หรือเมื่อมีอาการมองใกล้ไม่ชัดหรือปวดตา วิธีสังเกตอาการสายตายาว อาการสายตายาวสามารถสังเกตได้จากการมองเห็นสิ่งใกล้ไม่ชัดเจน หรือรู้สึกเมื่อยตาหรือปวดตาหลังจากการอ่านหรือทำกิจกรรมที่ใช้สายตานานๆ
ศูนย์เลสิก LASER VISION

วิธีทำเลสิกเลือกด้วยตัวเองได้ไหม?

วิธีทำเลสิกเลือกด้วยตัวเองได้ไหม? วิธีทำเลสิกเลือกด้วยตัวเองได้ไหม?      หนึ่งในข้อสงสัยที่สอบถามกันเข้ามาอย่างมากมาย คือ ทำเลสิกแบบไหนดี? ฉันเลือกเองได้ไหม? หรือต้องให้หมอเลือก? ซึ่งในวันนี้ Laser Vision จะขอตอบให้เคลียร์ทุกคำถามเกี่ยวกับการทำเลสิกแต่ละวิธี และวิธีการทำเลสิกแบบไหนเป็นวิธีที่เหมาะสมกับคุณ? Laser Vision มีการให้บริการรักษาสายตาไม่ว่าจะเป็นสายตาสั้น สายตาเอียง หรือสายตายาวทั้งหมด 4 รูปแบบด้วยกัน โดยแต่ละรูปแบบก็จะมีข้อจำกัดและขอบเขตในการรักษาที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้   PRK      PRK เป็นการรักษาที่เริ่มต้นมายาวนาน การรักษาสายตาด้วยวิธีนี้จะเริ่มจาก การลอกผิวกระจกตาชั้นนอกสุดก่อน จากนั้นจะใช้ Excimer Laser ทำการปรับผิวกระจกตาให้ได้ความโค้งที่พอดีกับค่าสายตา วิธีนี้จะไม่มีการแยกขั้นกระจกตา เหมาะกับการรักษาสายตาผิดปกติสำหรับผู้ที่มีสายตาสั้น สายตาเอียง หรือสายตายาวที่ไม่มากเกินไป ต้องอาศัยการพักฟื้นที่ยาวนานกว่า อย่างน้อยประมาณ 1 สัปดาห์ และอาจต้องมีการติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง   LASIK      LASIK หรือ Laser In Situ Keratomileusis เป็นการรักษาที่ได้รับการพัฒนาต่อมาจากการรักษาด้วยวิธี PRK และเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย โดยวิธีนี้จะมีขั้นตอนการแยกชั้นกระจกตาด้วยใบมีดขนาดเล็ก และเปิดชั้นกระจกตาออก จากนั้นจึงใช้ Excimer Laser ไปปรับความโค้งของผิวกระจกตาชั้นกลางเพื่อให้ได้ค่าความโค้งที่พอดี แล้วปิดกระจกตากลับเข้าตำแหน่งเดิม การรักษาด้วยวิธีเลสิกนี้ทำให้เพิ่มโอกาสในการรักษาสำหรับผู้ที่มีสายตาผิดปกติในระดับสูงได้ ไม่ว่าจะเป็นสายตาสั้น สายตาเอียง หรือสายตายาว และยังใช้เวลาในการพักฟื้นเพียง 1 วันก็กลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ   NanoLASIK      NanoLASIK เป็นวิธีการรักษาสายตาที่ทันสมัยมากขึ้น และได้รับความนิยมมากที่สุด วิธีนี้จะเป็นการรักษาโดยใช้แสงเลเซอร์ในทุกขั้นตอน โดยไม่จำเป็นต้องใช้ใบมีด (Bladeless) โดยขั้นตอนในการแยกชั้นกระจกตาจะใช้เลเซอร์ที่เรียกว่า Femtosecond Laser ที่มีพลังงานน้อยกว่า ในระดับนาโนจูล ในการแยกชั้นกระจกตาแทน แล้วค่อยใช้ Excimer Laser ทำการปรับผิวกระจกตาให้ได้ค่าสายตาตามต้องการ วิธีนี้สามารถเพิ่มโอกาสให้กับผู้ที่มีสายตาผิดปกติในระดับสูงได้มากขึ้น และยังช่วยลดอาการระคายเคืองได้   NanoRelex      NanoRelex ถือเป็นวิธีการรักษาสายตาที่ทันสมัยที่สุด โดยการใช้ Femtosecond Laser ยิงเข้าไปตัดแต่งเนื้อเยื่อในชั้นกระจกตาเพื่อปรับค่าสายตาให้เป็นปกติ จากนั้นนำกระจกตาส่วนเกินออกมาผ่านทางแผลขนาดเล็ก ๆ เพียง 2-3 มม. การรักษาสายตาด้วยวิธี NanoRelex นี้ จะไม่มีการแยกชั้นกระจกตา และแผลมีขนาดเล็กมาก ๆ จึงถือเป็นการรักษาที่มีความอ่อนโยนต่อดวงตามากที่สุด และยังรักษาความแข็งแรงให้กระจกตาได้ แต่วิธี NanoRelex นั้น จะเหมาะกับผู้ที่มีสายตาสั้น หรือสายตาเอียงเท่านั้น ยังไม่สามารถรักษาสายตายาวโดยกำเนิดได้      หลังจากทราบถึงความแตกต่างของการรักษาแต่ละวิธีแล้ว จะเห็นได้ว่า “ดวงตาของคุณ” จะเป็นผู้ให้คำตอบเองว่า คุณสามารถเข้ารับการรักษาสายตาด้วยวิธีใดได้บ้าง      และนอกเหนือจากข้อมูลด้านสภาพดวงตา และวิธีการรักษาสายตาแต่ละแบบแล้ว พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคลก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทีมแพทย์นำมาพิจารณาแนะนำวิธีการทำเลสิกที่เหมาะสมที่สุด การทำเลสิกแต่ละชนิดก็ยังมีข้อระวังเรื่องการดูแลหลังการรักษาและการพักฟื้นที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย ดังนั้น การตัดสินใจว่าจะเลือกทำเลสิกวิธีใด จึงควรเป็นการตัดสินใจร่วมกันระหว่างคนไข้และแพทย์ เพื่อการมองเห็นที่ดีที่สุดของคุณ และขอให้วางใจใน Laser Vision เพราะจักษุแพทย์ของเราเป็นทีมจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระจกตาและการรักษาสายตาผิดปกติโดยเฉพาะที่เปี่ยมด้วยประสบการณ์การรักษาที่ยาวนาน

ที่อยู่

Laser Vision International LASIK Center

10/989 ซ.ประเสริฐมนูกิจ 33 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10230

ช่องทางติดต่อ

Line
calling
ติดต่อเรา :