เส้นเลือดตาอุดตันเป็นภาวะที่เกิดจากการอุดตันในหลอดเลือดที่ส่งเลือดไปเลี้ยงดวงตา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นอย่างรุนแรง หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมทันเวลา อาการของเส้นเลือดตาอุดตันมักจะปรากฏในรูปแบบของการมองเห็นไม่ชัด หรืออาจมองเห็นเป็นจุดดำในสายตา บางกรณีอาจมองเห็นแบบเบลอๆ หรือการมองเห็นลดลงอย่างรวดเร็ว
การรักษาเส้นเลือดตาอุดตันอาจต้องใช้ยาหรือการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ เพื่อช่วยให้การมองเห็นกลับคืนมาหรือบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจสาเหตุ อาการ และแนวทางการรักษา เพื่อปกป้องดวงตาคู่สำคัญ!
เส้นเลือดตาอุดตัน (Retinal Vein Occlusion – RVO) หรือเส้นเลือดจอประสาทตาอุดตัน คือภาวะที่เส้นเลือดในจอตาต้องการเลือดไปหล่อเลี้ยงเพราะไม่สามารถไหลได้ตามปกติ ซึ่งอาจเกิดจากการอุดตันของเส้นเลือดดำในตา หรือเส้นเลือดที่นำเลือดกลับจากจอตา การอุดตันนี้ทำให้เลือดไม่สามารถไหลกลับได้และอาจทำให้เกิดการบวม หรือเลือดออกในจอประสาทตา ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการมองเห็น
การอุดตันของเส้นเลือดตาสามารถทำให้เกิดการสูญเสียการมองเห็นได้จริง ถ้าหากภาวะนี้ไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที หรือหากมีอาการรุนแรง เช่น การบวมของจอตา หรือเกิดเลือดออกในตา ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อจอประสาทตาได้ การสูญเสียการมองเห็นอาจเกิดขึ้นในบางกรณีที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ดังนั้น หากมีอาการผิดปกติ เช่น การมองเห็นเบลอหรือพร่ามัว ควรพบแพทย์เพื่อการตรวจและรักษาโดยด่วน
เส้นเลือดตาอุดตันไม่ได้เกิดขึ้นแบบเฉียบพลันโดยไม่มีสาเหตุ แต่มีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดภาวะนี้ ซึ่งบางรายอาจมีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างร่วมกัน หรือบางคนอาจไม่สามารถหาสาเหตุที่แน่ชัดได้ อย่างไรก็ตาม สาเหตุหลักที่พบได้บ่อยมีดังนี้
ความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ เพราะเมื่อแรงดันในหลอดเลือดเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ผนังหลอดเลือดตาเกิดการแข็งตัวและเปราะบางมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการตีบหรืออุดตันในเส้นเลือดบริเวณจอประสาทตาได้ง่าย ผู้ที่ควรระวังเป็นพิเศษคือกลุ่มที่เป็นความดันโลหิตสูงแต่ไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง หรือไม่สามารถควบคุมความดันให้คงที่ได้
เบาหวานไม่ได้ส่งผลแค่ระดับน้ำตาลในเลือดเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อเส้นเลือดขนาดเล็กทั่วร่างกาย รวมถึงในดวงตาด้วย ระดับน้ำตาลที่สูงอย่างต่อเนื่องจะทำให้ผนังเส้นเลือดในตาเสียหาย เกิดการรั่วซึม บวม และมีโอกาสเกิดลิ่มเลือดหรืออุดตันได้ง่าย และผู้ป่วยเบาหวานควรเข้ารับการตรวจสุขภาพตาเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนทางดวงตา
ภาวะไขมันในเลือดสูง โดยเฉพาะคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) สามารถสะสมตามผนังหลอดเลือดได้ เมื่อเกิดในเส้นเลือดจอประสาทตาจะเพิ่มโอกาสที่เลือดจะไหลเวียนได้ไม่สะดวกและเกิดการอุดตันได้ในที่สุด การควบคุมไขมันในเลือดด้วยการปรับพฤติกรรมการกิน และการออกกำลังกายเป็นประจำ จึงเป็นวิธีป้องกันที่สำคัญ
บางคนอาจมีพันธุกรรมที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือดมากผิดปกติ ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดลิ่มเลือด (Blood Clot) ในหลอดเลือดตาได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ภาวะเหล่านี้อาจไม่ได้แสดงอาการชัดเจน แต่อาจตรวจพบได้จากการตรวจเลือดเฉพาะทาง หรือประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว
การสูบบุหรี่เป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีผลเสียต่อระบบหลอดเลือดโดยตรง ไม่เพียงแต่ในหัวใจหรือปอดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงหลอดเลือดในดวงตาด้วย ซึ่งสารพิษในบุหรี่ เช่น นิโคติน จะทำให้เส้นเลือดตีบลง การไหลเวียนเลือดลดลง และเพิ่มโอกาสเกิดลิ่มเลือดในเส้นเลือดตามากขึ้น
เส้นเลือดอุดตันในตาอาจเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน หรือค่อยๆ เกิดขึ้นอย่างช้าๆ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและระดับความรุนแรงของการอุดตัน ซึ่งบางคนอาจไม่รู้ตัวในระยะแรก แต่หากปล่อยไว้โดยไม่รับการรักษาอาจทำให้สูญเสียการมองเห็นแบบถาวรได้
หนึ่งในอาการที่พบบ่อยที่สุดคือการมองเห็นไม่ชัด หรือมองเห็นเบลอๆ โดยเฉพาะในช่วงเช้าหลังตื่นนอน หรือเมื่อเพ่งสายตาเป็นเวลานาน อาจรู้สึกว่าภาพตรงหน้าไม่คมชัด เหมือนมีหมอกบางๆ ปกคลุมสายตาอยู่ บางรายอาจมีอาการเบลอเฉพาะบางส่วน เช่น มองเห็นด้านข้างไม่ชัดแต่ตรงกลางยังชัดอยู่ หรือในทางกลับกัน มองตรงกลางไม่ชัดแต่ด้านข้างยังคงเห็นชัดเจนอยู่
อีกอาการที่พบได้คือการเห็นจุดดำ เส้น หรือเงาเล็กๆ ลอยอยู่ในสายตา ซึ่งมักจะขยับตามการเคลื่อนไหวของดวงตา ลักษณะนี้เรียกว่าฟลอทเตอร์ (Floaters) แม้ว่าการเห็นฟลอทเตอร์เล็กน้อยอาจไม่ใช่เรื่องผิดปกติสำหรับบางคน แต่หากเห็นมากขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว หรือเป็นร่วมกับอาการเบลอ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติ
บางคนอาจสังเกตว่ามีช่องว่าง หรือจุดมืดในการมองเห็น เช่น มองไม่เห็นด้านข้าง มองไม่เห็นส่วนบนของภาพ หรือเห็นภาพไม่เต็มเฟรม อาการแบบนี้บ่งบอกว่าบางส่วนของจอประสาทตาถูกทำลายจากการขาดเลือด ทำให้เซลล์รับภาพไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
เมื่อมีการอุดตันของเส้นเลือดในตาอาจทำให้ของเหลวสะสมในบริเวณจอประสาทตา เกิดอาการบวมบริเวณจอประสาทตา (Macular Edema) ซึ่งทำให้รู้สึกไม่สบายตา หรือแม้กระทั่งปวดตาในบางราย ในบางกรณีอาจสังเกตเห็นว่าตาข้างที่มีปัญหาดูบวมหรือตาขุ่น โดยเฉพาะเมื่อมองในกระจกหรือตรวจด้วยกล้อง
ในกรณีที่รุนแรง เช่น เส้นเลือดจอประสาทตาใหญ่ (Central Retinal Vein หรือ Central Retinal Artery) อุดตัน อาจทำให้การมองเห็นลดลงอย่างรวดเร็วและรุนแรงภายในเวลาไม่กี่นาที หากอาการนี้เกิดขึ้นควรรีบไปโรงพยาบาลทันที เพราะการรักษาในช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงแรกมีผลอย่างมากต่อการฟื้นฟูการมองเห็น
การรักษาเส้นเลือดตาอุดตันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่งของเส้นเลือดที่อุดตัน ความรุนแรงของอาการ และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย โดยเป้าหมายหลักของการรักษาคือการฟื้นฟูการมองเห็นให้ได้มากที่สุด และ ป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายถาวรต่อจอประสาทตา
แพทย์จักษุจะประเมินจากการตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่องมือเฉพาะ เช่น กล้องตรวจจอประสาทตา (OCT) การฉีดสีตรวจหลอดเลือด (FFA) หรือการตรวจคลื่นเสียงความถี่สูง เป็นต้น จากนั้นจึงเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย
การฉีดยาเข้าวุ้นตา หนึ่งในวิธีที่ใช้กันบ่อยและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดจอประสาทตาบวม หรือมีเลือดออกจากเส้นเลือดที่อุดตัน โดยมียาที่ใช้ดังนี้
หากพบว่ามีการรั่วของหลอดเลือด หรือมีเส้นเลือดผิดปกติ การใช้เลเซอร์ยิงเพื่อปิดหรือควบคุมเส้นเลือดเหล่านั้นสามารถช่วยลดความเสียหายได้
แม้จะพบได้น้อย แต่ในบางกรณีที่รุนแรง เช่น มีเลือดออกในน้ำวุ้นตาเยอะ หรือมีพังผืดดึงรั้งจอประสาทตา อาจจำเป็นต้องทำการผ่าตัด โดยการผ่าตัดวุ้นตา (Vitrectomy) เป็นการผ่าตัดเพื่อเอาเลือดออกจากวุ้นตา และเอาพังผืดหรือเนื้อเยื่อที่ผิดปกติออก เพื่อให้จอประสาทตากลับมาทำงานได้ดีขึ้น
การป้องกันการเกิดเส้นเลือดตาอุดตันทำได้โดยการดูแลสุขภาพทั่วไป และการตรวจสุขภาพดวงตาอย่างสม่ำเสมอ และนี่คือบางวิธีที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงได้
หากคุณสงสัยว่ามีอาการหรือเริ่มมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับการมองเห็น เช่น มองเห็นภาพเบลอ เห็นจุดดำลอยไปมา หรือรู้สึกว่ามุมมองบางส่วนหายไป อย่ารอให้สายเกินไป! เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของภาวะเส้นเลือดตาอุดตัน
ซึ่งหากได้รับการตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงของการสูญเสียการมองเห็นถาวรได้ ที่ Bangkok Eye Hospital เราให้ความสำคัญกับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและรวดเร็ว จึงได้นำเทคโนโลยีการตรวจตาที่ทันสมัยระดับสากลมาใช้ ดังนี้
เส้นเลือดตาอุดตันคือภาวะที่เส้นเลือดในจอตาอุดตัน ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก จนเกิดการบวมและมองเห็นผิดปกติ เช่น เห็นภาพเบลอ เห็นจุดดำ หรือการมองเห็นลดลงอย่างรวดเร็ว สาเหตุหลักมักมาจากความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง พันธุกรรม และการสูบบุหรี่ การรักษาจะขึ้นอยู่กับความรุนแรง เช่น การฉีดยาเข้าวุ้นตา เลเซอร์ หรือการผ่าตัด
ยิ่งตรวจพบเร็วยิ่งช่วยลดความเสี่ยงที่จะสูญเสียการมองเห็น หากมีอาการที่จะเป็นเส้นเลือดตาอุดตันสามารถเข้ารับบริการวินิจฉัยและรักษาได้ที่ Bangkok Eye Hospital (โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ) ที่มีเทคโนโลยีทันสมัยและแพทย์เฉพาะทางคอยดูแลอย่างมีประสิทธิภาพ
หากมีอาการมองเห็นเบลอๆ เห็นจุดหรือเส้นลอยไปมา หรือการมองเห็นลดลง ควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจและรักษาทันที
อาการที่พบบ่อยคือการมองเห็นเบลอๆ การเห็นจุดหรือเส้นลอยไปมา การมองเห็นบางมุมไม่ชัดเจน หรือการมองเห็นลดลงอย่างเฉียบพลัน
หากไม่ได้รับการรักษาทันที ภาวะนี้สามารถทำให้สูญเสียการมองเห็นถาวรได้ โดยเฉพาะในกรณีที่มีการบวมในจอประสาทตาหรือเลือดออกในตา