หลายคนที่เคยทำเลสิกอาจรู้สึกผิดหวังเมื่อพบว่าทำเลสิกแล้วสายตาสั้นอีกครั้ง ทั้งที่เคยมองเห็นชัดเจนในช่วงแรกหลังผ่าตัด ปัญหานี้อาจสร้างความกังวลใจและตั้งคำถามว่าเกิดจากอะไร? จำเป็นต้องทำเลสิกซ้ำหรือไม่? หรือมีวิธีอื่นในการแก้ไข? บทความนี้จะพาไปเจาะลึกถึงสาเหตุของสายตาสั้นซ้ำหลังเลสิก พร้อมแนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสม และข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจแก้ปัญหาอย่างปลอดภัย
ค่าสายตาที่กลับมาอีกหลังหรือทำเลสิกแล้วสายตาสั้นอีกเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้น้อย และไม่ได้อันตรายอย่างที่หลายคนกังวล การเปรียบเทียบง่ายๆ คือเหมือนเวลาถูกมีดบาด แผลของแต่ละคนจะหายเร็วหรือช้าต่างกัน แม้จะโดนในจุดเดียวกัน ลึกเท่ากัน เพราะร่างกายแต่ละคนมีธรรมชาติที่แตกต่างกัน เช่นเดียวกับกระบวนการหายของกระจกตาหลังเลเซอร์
ในทางเลสิกคนส่วนใหญ่มักจะไม่มีการกลับมาของค่าสายตา แต่ในบางกรณี โดยเฉพาะผู้ที่มีค่าสายตาสั้นมาก (เกิน 800) หรือสายตาเอียงมาก (เกิน 200) อาจมีโอกาสที่ค่าสายตาจะกลับมาเล็กน้อยได้ในระยะยาว เช่น ประมาณ 100 ภายใน 10 ปี ซึ่งส่วนใหญ่ไม่กระทบต่อการใช้ชีวิต เพราะยังสามารถมองเห็นได้ชัดเจน และหลายครั้งยังชัดกว่าตอนที่ใช้แว่นเดิมด้วยซ้ำ
ที่น่าสนใจคือการมีค่าสายตากลับมาบ้างเล็กน้อยในช่วงหลังวัย 40 อาจกลายเป็นข้อดี เพราะช่วยให้มองใกล้ได้ง่ายขึ้น เช่น การอ่านหนังสือหรือดูมือถือ โดยไม่ต้องพึ่งแว่นสายตายาวมากนัก สำหรับคำถามที่ว่า ทำเลสิกอยู่ได้นานกี่ปี ส่วนใหญ่ผลลัพธ์จะคงทนหลายปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและการเปลี่ยนแปลงของสายตาตามวัย
ภาวะสายตากลับมาสั้นอีกหลังทำเลสิกไม่ได้หมายความว่าการผ่าตัดล้มเหลวเสมอไป แต่เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อสายตาหลังการรักษา ดังนี้
ในผู้ที่ทำเลสิกแล้วสายตาสั้นอีก ขณะที่สายตายังสั้นขึ้นเรื่อยๆ หรือยังไม่คงที่ สายตาอาจกลับมาสั้นอีกตามธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไป แม้จะได้รับการแก้ไขด้วยเลสิกแล้วก็ตาม โดยเฉพาะในกลุ่มคนอายุน้อยหรือผู้ที่มีการเปลี่ยนแปลงของสายตาอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเหตุผลที่แพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำให้รอจนกว่าสายตาจะคงที่อย่างน้อย 1-2 ปีก่อนที่จะทำเลสิก เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดโอกาสการกลับมาของสายตาสั้น
กระจกตาของแต่ละคนมีการตอบสนองต่อการผ่าตัดไม่เหมือนกัน บางรายอาจสร้างเนื้อเยื่อใหม่บริเวณที่เจียระไนออกไปมากเกินไป (Epithelial Hyperplasia) หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพ ทำให้ความโค้งของกระจกตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ส่งผลให้ทำเลสิกแล้วสายตาสั้นอีกได้ โดยการฟื้นตัวและปฏิกิริยาของเนื้อเยื่อจะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล
หากวัดค่าสายตาเริ่มต้นก่อนการผ่าตัดคลาดเคลื่อนเล็กน้อย หรือการคำนวณกำลังเลเซอร์ไม่แม่นยำ อาจทำให้การแก้ไขสายตาไม่สมบูรณ์ตั้งแต่แรก ส่งผลให้เกิดปัญหาทำเลสิกแล้วสายตาสั้นอีกได้ในภายหลัง ซึ่งความแม่นยำในการตรวจประเมินก่อนผ่าตัดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผลลัพธ์ที่ดีและยั่งยืน
ผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้นในระดับรุนแรงมาก การทำเลสิกอาจต้องเจียระไนเนื้อกระจกตาออกในปริมาณมาก ซึ่งเพิ่มโอกาสให้เกิดปัญหาทำเลสิกแล้วสายตาสั้นอีก มากกว่าผู้ที่มีสายตาสั้นน้อย ดังนั้นการใช้เทคนิคผ่าตัดที่เหมาะสม หรือพิจารณาทางเลือกอื่น เช่น PRK หรือ ICL อาจจำเป็นในบางกรณีเพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและยั่งยืน
นอกจากสาเหตุหลักๆ แล้ว ยังมีปัจจัยอื่นที่อาจส่งผลให้เกิดปัญหาเลสิกแล้วสายตาสั้นอีกได้ ซึ่งการทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ที่สนใจทำเลสิกเตรียมตัวและเลือกแนวทางรักษาได้เหมาะสมมากขึ้น เช่น
หลังทำเลสิก การดูแลและถนอมสายตาอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน และช่วยป้องกันไม่ให้สายตากลับมาสั้นอีก ส่วนนี้จะแนะนำแนวทางและวิธีถนอมสายตาหลังทำเลสิก เพื่อช่วยรักษาผลลัพธ์และดูแลดวงตาให้แข็งแรงในระยะยาว
ในคืนแรกหลังการผ่าตัดเลสิก ผู้ป่วยมักจะรู้สึกเคืองตา อาการน้ำตาไหลอาจมีมากหรือน้อยแตกต่างกันไปในแต่ละคน ทั้งนี้เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น ทำเลสิกแล้วสายตาสั้นอีก ควรปฏิบัติตามคำแนะนำสำหรับการดูแลตัวเองในคืนแรก ดังนี้
ในช่วงสัปดาห์แรกหลังทำเลสิก การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญเพื่อช่วยให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างราบรื่นและป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ โดยมีข้อควรปฏิบัติที่ควรรู้ ดังนี้
เมื่อพบว่าสายตากลับมาสั้นอีกหลังทำเลสิก แพทย์จะทำการตรวจประเมินอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุและพิจารณาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสม เช่น
การใส่แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์เป็นทางเลือกที่ง่ายและปลอดภัยที่สุด สำหรับผู้ที่ทำเลสิกแล้วสายตาสั้นอีก เล็กน้อย และไม่ต้องการผ่าตัดซ้ำ เพราะวิธีนี้ไม่เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน และยังช่วยให้การมองเห็นชัดเจนขึ้นโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการผ่าตัดเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามค่าสายตาที่เปลี่ยนไปตามเวลา ทำให้เหมาะกับผู้ที่ต้องการความสะดวกและปลอดภัยในระยะยาว
วิธีนี้นิยมใช้เมื่อกระจกตายังมีความหนาเพียงพอและไม่พบความผิดปกติอื่นๆ แพทย์จะทำการยกเปิดฝากระจกตาเดิม หากยังสามารถทำได้หรือสร้างฝากระจกตาใหม่ จากนั้นใช้เลเซอร์เจียระไนเนื้อกระจกตาเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขค่าสายตาที่ยังเหลืออยู่
สำหรับคำถามที่ว่า ทำเลสิกแล้วสามารถทำซ้ำได้ไหม คำตอบคือ สามารถทำได้ในบางกรณี แต่ต้องพิจารณาความเสี่ยง เช่น โอกาสเกิดอาการตาแห้งมากขึ้น หรือภาวะกระจกตาบางเกินไปในระยะยาว จึงควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ
อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่มีความหนากระจกตาบางเกินไปจนไม่เหมาะกับการทำเลสิกซ้ำ หรือในกรณีที่ไม่สามารถยกเปิดฝากระจกตาเดิมได้ คือการทำ PRK ซึ่งจะไม่สร้างฝากระจกตา แต่จะเจียระไนเนื้อกระจกตาโดยตรงบนผิวหน้าของกระจกตา อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวหลังทำ PRK อาจใช้เวลานานกว่าเลสิก และอาจมีอาการเจ็บปวดในช่วงแรก จึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนเลือกวิธีนี้
การใส่เลนส์เทียมในลูกตาเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่มีสายตาสั้นรุนแรงมาก หรือมีข้อจำกัดในการทำเลสิกหรือ PRK ซ้ำ เช่น กรณีกระจกตาบางเกินไป วิธีนี้คือการผ่าตัดนำเลนส์เทียมใส่เข้าไปในดวงตาเพื่อช่วยแก้ไขค่าสายตา โดยเป็นการผ่าตัดที่ซับซ้อนกว่าเลสิกและมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ
แม้การทำเลสิกจะช่วยแก้ไขสายตาสั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในบางกรณีสายตาอาจกลับมาสั้นอีกได้จากหลายปัจจัย เช่น การเปลี่ยนแปลงของสายตาตามวัย หรือความแตกต่างในการฟื้นตัวของกระจกตา ดังนั้นความแม่นยำในการตรวจวัดและการผ่าตัดจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง Bangkok Eye Hospital (โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ) ใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและปลอดภัย ช่วยลดโอกาสที่สายตาจะกลับมาสั้นอีก และมอบประสบการณ์การรักษาที่ไว้วางใจได้แก่ผู้ป่วยทุกคน
สำหรับผู้ที่กำลังสงสัยเกี่ยวกับปัญหาทำเลสิกแล้วสายตาสั้นอีก เราได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยและคำตอบที่ช่วยให้คุณเข้าใจปัญหา สาเหตุ และแนวทางแก้ไข เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
การทำเลสิกซ้ำโดยรวมถือว่าปลอดภัย หากแพทย์ประเมินแล้วว่าเหมาะสม และกระจกตามีความหนาเพียงพอ
หากคุณรู้สึกว่าการมองเห็นเริ่มพร่ามัวลง หรือค่าสายตาสั้นกลับมาใกล้เคียงกับก่อนทำเลสิก ควรรีบปรึกษาจักษุแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านการแก้ไขสายตาโดยเร็วที่สุด
แม้ไม่สามารถป้องกันภาวะได้ทั้งหมด แต่สามารถลดความเสี่ยงของการทำเลสิกแล้วสายตาสั้นอีกได้ ด้วยการรอให้ค่าสายตาคงที่อย่างน้อย 1-2 ปีก่อนรักษา เลือกแพทย์และสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน พร้อมเครื่องมือแม่นยำ และดูแลสุขภาพตาหลังการผ่าตัดอย่างเคร่งครัด เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงการใช้สายตาหนักเกินไป