ย้อนกลับ
ทำเลสิกแล้วสายตากลับมาสั้นอีก สาเหตุ แนวทางแก้ไข และข้อควรรู้
  • แม้ทำเลสิกแล้วสายตาสั้นอีกได้ หากค่าสายตายังไม่คงที่ หรือเกิดภาวะ Regression หลังการรักษา
  • เหตุผลหรือปัจจัยที่ทำให้สายตากลับมาสั้นอีกหลังทำเลสิก ได้แก่ สายตาเปลี่ยนไปจากปกติ การตอบสนองของร่างกาย สายตาที่ยังไม่คงที่ก่อนผ่าตัด สายตาสั้นรุนแรง และโรคประจำตัว เป็นต้น
  • วิธีแก้ไขเมื่อทำเลสิกแล้วสายตากลับมาสั้นอีก ได้แก่ การทำเลสิกซ้ำ (หากกระจกตายังหนาพอ) ใส่แว่นหรือคอนแท็กต์เลนส์ และในบางกรณีอาจพิจารณาการใส่เลนส์เสริม ICL แทน

หลายคนที่เคยทำเลสิกอาจรู้สึกผิดหวังเมื่อพบว่าทำเลสิกแล้วสายตาสั้นอีกครั้ง ทั้งที่เคยมองเห็นชัดเจนในช่วงแรกหลังผ่าตัด ปัญหานี้อาจสร้างความกังวลใจและตั้งคำถามว่าเกิดจากอะไร? จำเป็นต้องทำเลสิกซ้ำหรือไม่? หรือมีวิธีอื่นในการแก้ไข? บทความนี้จะพาไปเจาะลึกถึงสาเหตุของสายตาสั้นซ้ำหลังเลสิก พร้อมแนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสม และข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจแก้ปัญหาอย่างปลอดภัย


ทำเลสิกมีโอกาสสายตาสั้นอีกได้ไหม?

 

ทำเลสิกมีโอกาสสายตาสั้นอีกได้ไหม?

ค่าสายตาที่กลับมาอีกหลังหรือทำเลสิกแล้วสายตาสั้นอีกเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้น้อย และไม่ได้อันตรายอย่างที่หลายคนกังวล การเปรียบเทียบง่ายๆ คือเหมือนเวลาถูกมีดบาด แผลของแต่ละคนจะหายเร็วหรือช้าต่างกัน แม้จะโดนในจุดเดียวกัน ลึกเท่ากัน เพราะร่างกายแต่ละคนมีธรรมชาติที่แตกต่างกัน เช่นเดียวกับกระบวนการหายของกระจกตาหลังเลเซอร์

ในทางเลสิกคนส่วนใหญ่มักจะไม่มีการกลับมาของค่าสายตา แต่ในบางกรณี โดยเฉพาะผู้ที่มีค่าสายตาสั้นมาก (เกิน 800) หรือสายตาเอียงมาก (เกิน 200) อาจมีโอกาสที่ค่าสายตาจะกลับมาเล็กน้อยได้ในระยะยาว เช่น ประมาณ 100 ภายใน 10 ปี ซึ่งส่วนใหญ่ไม่กระทบต่อการใช้ชีวิต เพราะยังสามารถมองเห็นได้ชัดเจน และหลายครั้งยังชัดกว่าตอนที่ใช้แว่นเดิมด้วยซ้ำ

ที่น่าสนใจคือการมีค่าสายตากลับมาบ้างเล็กน้อยในช่วงหลังวัย 40 อาจกลายเป็นข้อดี เพราะช่วยให้มองใกล้ได้ง่ายขึ้น เช่น การอ่านหนังสือหรือดูมือถือ โดยไม่ต้องพึ่งแว่นสายตายาวมากนัก สำหรับคำถามที่ว่า ทำเลสิกอยู่ได้นานกี่ปี ส่วนใหญ่ผลลัพธ์จะคงทนหลายปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและการเปลี่ยนแปลงของสายตาตามวัย

 

ทำไมสายตาถึงกลับมาสั้นอีกหลังทำเลสิก?

 

ทำไมสายตาถึงกลับมาสั้นอีกหลังทำเลสิก?

ภาวะสายตากลับมาสั้นอีกหลังทำเลสิกไม่ได้หมายความว่าการผ่าตัดล้มเหลวเสมอไป แต่เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อสายตาหลังการรักษา ดังนี้

 

ภาวะที่สายตาเปลี่ยนแปลงไปจากปกติ

ในผู้ที่ทำเลสิกแล้วสายตาสั้นอีก ขณะที่สายตายังสั้นขึ้นเรื่อยๆ หรือยังไม่คงที่ สายตาอาจกลับมาสั้นอีกตามธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไป แม้จะได้รับการแก้ไขด้วยเลสิกแล้วก็ตาม โดยเฉพาะในกลุ่มคนอายุน้อยหรือผู้ที่มีการเปลี่ยนแปลงของสายตาอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเหตุผลที่แพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำให้รอจนกว่าสายตาจะคงที่อย่างน้อย 1-2 ปีก่อนที่จะทำเลสิก เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดโอกาสการกลับมาของสายตาสั้น

 

การตอบสนองของร่างกาย

กระจกตาของแต่ละคนมีการตอบสนองต่อการผ่าตัดไม่เหมือนกัน บางรายอาจสร้างเนื้อเยื่อใหม่บริเวณที่เจียระไนออกไปมากเกินไป (Epithelial Hyperplasia) หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพ ทำให้ความโค้งของกระจกตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ส่งผลให้ทำเลสิกแล้วสายตาสั้นอีกได้ โดยการฟื้นตัวและปฏิกิริยาของเนื้อเยื่อจะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล

 

ประเมินค่าสายตาผิดพลาด

หากวัดค่าสายตาเริ่มต้นก่อนการผ่าตัดคลาดเคลื่อนเล็กน้อย หรือการคำนวณกำลังเลเซอร์ไม่แม่นยำ อาจทำให้การแก้ไขสายตาไม่สมบูรณ์ตั้งแต่แรก ส่งผลให้เกิดปัญหาทำเลสิกแล้วสายตาสั้นอีกได้ในภายหลัง ซึ่งความแม่นยำในการตรวจประเมินก่อนผ่าตัดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผลลัพธ์ที่ดีและยั่งยืน

 

สายตาสั้นรุนแรงตั้งแต่แรก

ผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้นในระดับรุนแรงมาก การทำเลสิกอาจต้องเจียระไนเนื้อกระจกตาออกในปริมาณมาก ซึ่งเพิ่มโอกาสให้เกิดปัญหาทำเลสิกแล้วสายตาสั้นอีก มากกว่าผู้ที่มีสายตาสั้นน้อย ดังนั้นการใช้เทคนิคผ่าตัดที่เหมาะสม หรือพิจารณาทางเลือกอื่น เช่น PRK หรือ ICL อาจจำเป็นในบางกรณีเพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและยั่งยืน

 

ปัจจัยอื่นๆ

นอกจากสาเหตุหลักๆ แล้ว ยังมีปัจจัยอื่นที่อาจส่งผลให้เกิดปัญหาเลสิกแล้วสายตาสั้นอีกได้ ซึ่งการทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ที่สนใจทำเลสิกเตรียมตัวและเลือกแนวทางรักษาได้เหมาะสมมากขึ้น เช่น

  • การตั้งครรภ์หรือการให้นมบุตร ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงอาจทำให้ค่าสายตาเปลี่ยนได้
  • โรคประจำตัวบางชนิด เช่น เบาหวาน ที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ดี อาจส่งผลต่อการมองเห็น
  • การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาสเตียรอยด์ หรือยาต้านซึมเศร้า อาจมีผลข้างเคียงต่อสายตา


แนวทางและวิธีถนอมสายตาหลังทำเลสิก

 

แนวทางและวิธีถนอมสายตาหลังทำเลสิก

หลังทำเลสิก การดูแลและถนอมสายตาอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน และช่วยป้องกันไม่ให้สายตากลับมาสั้นอีก ส่วนนี้จะแนะนำแนวทางและวิธีถนอมสายตาหลังทำเลสิก เพื่อช่วยรักษาผลลัพธ์และดูแลดวงตาให้แข็งแรงในระยะยาว

 

วิธีถนอมสายตาหลังทำเลสิกคืนแรก

ในคืนแรกหลังการผ่าตัดเลสิก ผู้ป่วยมักจะรู้สึกเคืองตา อาการน้ำตาไหลอาจมีมากหรือน้อยแตกต่างกันไปในแต่ละคน ทั้งนี้เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น ทำเลสิกแล้วสายตาสั้นอีก ควรปฏิบัติตามคำแนะนำสำหรับการดูแลตัวเองในคืนแรก ดังนี้

  • คนไข้ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ แต่สามารถลืมตาทำกิจวัตรที่จำเป็นได้ โดยมองผ่านรูเล็กๆ ของฝาครอบตา
  • หากผ่าตัดตอนกลางวัน ควรนอนหลับสั้นๆ อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงหลังผ่าตัด
  • หากผ่าตัดตอนเย็น ควรเข้านอนแต่หัวค่ำ และรับประทานยานอนหลับอ่อนๆ ที่แพทย์ให้หลังอาหารเย็น
  • หลังผ่าตัดจะได้รับการปิดฝาครอบตาข้างที่ผ่าตัด ซึ่งเป็นฝาครอบใสมีรูเล็กๆ ให้มองลอดได้ ห้ามแกะฝาครอบตาเด็ดขาด ยกเว้นแพทย์สั่งให้เปิดหยอดยาเอง เพื่อป้องกันการขยี้ตา
  • หากน้ำตาไหลมาก ควรซับน้ำตานอกฝาครอบตาเท่านั้น
  • หากฝาครอบตาไม่แน่น ควรติดพลาสเตอร์เพิ่มเพื่อความปลอดภัย
  • สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ แต่ต้องระวัง ห้ามให้น้ำเข้าตาเด็ดขาด
  • ไม่ควรล้างหน้าด้วยน้ำ สามารถใช้ผ้าเช็ดหน้าแทนได้ แต่สามารถอาบน้ำและแปรงฟันได้ตามปกติ

 

วิธีถนอมสายตาหลังทำเลสิกสัปดาห์แรก

ในช่วงสัปดาห์แรกหลังทำเลสิก การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญเพื่อช่วยให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างราบรื่นและป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ โดยมีข้อควรปฏิบัติที่ควรรู้ ดังนี้

  • หยอดยาป้องกันการติดเชื้อและน้ำตาเทียม โดยสามารถหยอดน้ำตาเทียมได้บ่อยตามต้องการ
  • ปิดฝาครอบตาก่อนนอน เพื่อป้องกันไม่ให้เผลอขยี้ตา
  • ระมัดระวังไม่ให้น้ำหรือฝุ่นละอองเข้าตา
  • ห้ามขยี้ตาเด็ดขาด
  • งดแต่งหน้า โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • ควรใส่แว่นกันแดดเมื่อต้องอยู่ในที่ที่มีแสงจ้า เพื่อลดอาการเคืองและแสบตา เพราะการมองเห็นอาจยังไม่คงที่ เนื่องจากอาจมีอาการตาแห้ง
  • หลังตรวจตาเมื่อครบ 1 สัปดาห์ จะอนุญาตให้ล้างหน้าและสระผมโดยไม่ต้องใส่ฝาครอบตาก่อนนอน
  • สามารถว่ายน้ำได้หลังทำเลสิกประมาณ 2 สัปดาห์

 

วิธีแก้ไขเมื่อทำเลสิกแล้วสายตากลับมาสั้นอีก?

 

วิธีแก้ไขเมื่อทำเลสิกแล้วสายตากลับมาสั้นอีก?

เมื่อพบว่าสายตากลับมาสั้นอีกหลังทำเลสิก แพทย์จะทำการตรวจประเมินอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุและพิจารณาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสม เช่น

 

การใส่แว่นหรือคอนแทคเลนส์

การใส่แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์เป็นทางเลือกที่ง่ายและปลอดภัยที่สุด สำหรับผู้ที่ทำเลสิกแล้วสายตาสั้นอีก เล็กน้อย และไม่ต้องการผ่าตัดซ้ำ เพราะวิธีนี้ไม่เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน และยังช่วยให้การมองเห็นชัดเจนขึ้นโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการผ่าตัดเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามค่าสายตาที่เปลี่ยนไปตามเวลา ทำให้เหมาะกับผู้ที่ต้องการความสะดวกและปลอดภัยในระยะยาว

 

การทำเลสิกซ้ำ (Re-LASIK หรือ Enhancement)

วิธีนี้นิยมใช้เมื่อกระจกตายังมีความหนาเพียงพอและไม่พบความผิดปกติอื่นๆ แพทย์จะทำการยกเปิดฝากระจกตาเดิม หากยังสามารถทำได้หรือสร้างฝากระจกตาใหม่ จากนั้นใช้เลเซอร์เจียระไนเนื้อกระจกตาเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขค่าสายตาที่ยังเหลืออยู่

สำหรับคำถามที่ว่า ทำเลสิกแล้วสามารถทำซ้ำได้ไหม คำตอบคือ สามารถทำได้ในบางกรณี แต่ต้องพิจารณาความเสี่ยง เช่น โอกาสเกิดอาการตาแห้งมากขึ้น หรือภาวะกระจกตาบางเกินไปในระยะยาว จึงควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ

 

การทำ PRK (Photorefractive Keratectomy)

อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่มีความหนากระจกตาบางเกินไปจนไม่เหมาะกับการทำเลสิกซ้ำ หรือในกรณีที่ไม่สามารถยกเปิดฝากระจกตาเดิมได้ คือการทำ PRK ซึ่งจะไม่สร้างฝากระจกตา แต่จะเจียระไนเนื้อกระจกตาโดยตรงบนผิวหน้าของกระจกตา อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวหลังทำ PRK อาจใช้เวลานานกว่าเลสิก และอาจมีอาการเจ็บปวดในช่วงแรก จึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนเลือกวิธีนี้

 

การใส่เลนส์เสริม (ICL - Implantable Collamer Lens)

การใส่เลนส์เทียมในลูกตาเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่มีสายตาสั้นรุนแรงมาก หรือมีข้อจำกัดในการทำเลสิกหรือ PRK ซ้ำ เช่น กรณีกระจกตาบางเกินไป วิธีนี้คือการผ่าตัดนำเลนส์เทียมใส่เข้าไปในดวงตาเพื่อช่วยแก้ไขค่าสายตา โดยเป็นการผ่าตัดที่ซับซ้อนกว่าเลสิกและมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ

 

สรุป

แม้การทำเลสิกจะช่วยแก้ไขสายตาสั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในบางกรณีสายตาอาจกลับมาสั้นอีกได้จากหลายปัจจัย เช่น การเปลี่ยนแปลงของสายตาตามวัย หรือความแตกต่างในการฟื้นตัวของกระจกตา ดังนั้นความแม่นยำในการตรวจวัดและการผ่าตัดจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง Bangkok Eye Hospital (โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ) ใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและปลอดภัย ช่วยลดโอกาสที่สายตาจะกลับมาสั้นอีก และมอบประสบการณ์การรักษาที่ไว้วางใจได้แก่ผู้ป่วยทุกคน

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับทำเลสิกแล้วสายตาสั้นอีก (FAQ)

สำหรับผู้ที่กำลังสงสัยเกี่ยวกับปัญหาทำเลสิกแล้วสายตาสั้นอีก เราได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยและคำตอบที่ช่วยให้คุณเข้าใจปัญหา สาเหตุ และแนวทางแก้ไข เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

 

การทำเลสิกซ้ำอันตรายไหม?

การทำเลสิกซ้ำโดยรวมถือว่าปลอดภัย หากแพทย์ประเมินแล้วว่าเหมาะสม และกระจกตามีความหนาเพียงพอ

 

ควรปรึกษาแพทย์เมื่อใดหากสงสัยว่าสายตากลับมาสั้นอีก

หากคุณรู้สึกว่าการมองเห็นเริ่มพร่ามัวลง หรือค่าสายตาสั้นกลับมาใกล้เคียงกับก่อนทำเลสิก ควรรีบปรึกษาจักษุแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านการแก้ไขสายตาโดยเร็วที่สุด

 

มีวิธีป้องกันไม่ให้สายตากลับมาสั้นอีกหลังทำเลสิกไหม?

แม้ไม่สามารถป้องกันภาวะได้ทั้งหมด แต่สามารถลดความเสี่ยงของการทำเลสิกแล้วสายตาสั้นอีกได้ ด้วยการรอให้ค่าสายตาคงที่อย่างน้อย 1-2 ปีก่อนรักษา เลือกแพทย์และสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน พร้อมเครื่องมือแม่นยำ และดูแลสุขภาพตาหลังการผ่าตัดอย่างเคร่งครัด เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงการใช้สายตาหนักเกินไป

 

calling
ติดต่อเรา : +662 511 2111